พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อช่วงก่อนปีใหม่สัก ๒ อาทิตย์ มีห้างใหญ่ลดราคาเครื่องใช้ในครัว อาตมาให้เงินแม่ชีไป ๗ หมื่นบาท กลับมาไม่เหลือสักบาทเดียว..! แม่ชีซื้อของมาเป็นรถกระบะเลย ตอนนี้กำลังพ่นสีชื่อวัดติดของทุกชิ้นกันอยู่ แต่ก็ไม่มีประโยชน์หรอก คนที่เขาหยิบยืมไปใช้ ถ้าจะเอาเสียอย่างต่อให้ติดชื่ออยู่เขาก็เอา ไม่ว่าจะซื้อของมามากแค่ไหน พอโยมยืมไปยืมมาก็จะร่อยหรอไปเรื่อย แล้วก็ต้องซื้อเพิ่มอีก
เรื่องการยืมของ อาตมาพยายามที่จะให้รัดกุมแล้ว แต่บางทีเด็กวัดหรือแม่ชีก็เกรงใจโยม ที่วัดจะมีบัญชีรับส่งอยู่ว่าเขายืมอะไรไป แล้วเอามาส่งคืนครบหรือไม่ แต่ปรากฏว่าพอเขาเอามาส่ง แม่ชีก็ไม่กล้าตรวจสอบต่อหน้าเขาเพราะเกรงใจ เขากลับไปแล้วค่อยมาตรวจใหม่ พอไม่ครบก็ว่าอะไรไม่ได้แล้ว ดูท่าจะต้องเปลี่ยนจากแม่ชีหรือเด็กวัดที่ดูแลให้เป็นพระ แล้วต้องเลือกท่านที่โหด ๆ หน่อยด้วย..!
ญาติโยมบางท่านก็ค่อนข้างจะมีอิทธิพลในพื้นที่ เป็นระดับนายกเทศมนตรีบ้าง สมาชิกสภาเทศบาลบ้าง นายกอบต. บ้าง สมาชิกอบต. บ้าง คนในวัดก็ไม่กล้าไปว่าอะไรเขา ส่วนอาตมาด่าตั้งแต่นายอำเภอลงมาถึงภารโรงเลย..! เขาเคยชินแล้วแหละ นายอำเภอคนเก่าโดนด่าไปต่อหน้าเลย บรรดานักการเมืองท้องถิ่นจะโดนบ่อย ส่วนใหญ่เขาจะอยู่ในลักษณะหาเสียง พอถึงเวลาจะประเคนของก็ต้องประกาศเรียกขึ้นมาประเคนทีละคน ๆ อาตมาก็พอรับได้ตรงนี้ เพราะรู้ว่าเป็นลีลาของเขา
แต่พอบอกว่าให้ประเคนตอนนี้ เขากลับไม่ทำ พอเลิกงานแล้วดันมาทำ พระก็ยังกลับไม่ได้ ปกติตอนช่วงถวายสังฆทานอาตมาบอกเขาว่า ถ้าใครจะถวายอะไรก็จัดมาตอนนี้เลย เขาก็เฉย ๆ กระทั่งพระยถาสัพพีฯ ญาติโยมกรวดน้ำรับพรเสร็จแล้ว เขาค่อยประกาศเรียกพรรคพวกมาถวาย พออาตมาจับไมค์ได้ก็ด่าส่งไปเลย เพราะถ้าไม่มีใครว่าเขาจริง ๆ ต่อไปเขาก็จะทำผิด ๆ ไปเรื่อย ตกลงว่าอาตมาต้องยอมเป็นคนปากร้ายไปคนเดียว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2012 เมื่อ 05:15
|