ดูแบบคำตอบเดียว
  #18  
เก่า 30-01-2016, 15:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,368
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็ต้องทำสถานที่ซึ่งจะเดินจงกรมแล้วก็เดินไป กลางค่ำกลางคืนไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน เดินกันทั้งคืน เดินไปก็ภาวนาไป หรือยกหัวข้อธรรมที่ติดขัดขึ้นมาพิจารณาไป ถามว่าเดินกันขนาดไหน ? ก็ยันสว่างหรือยันเวลาบิณฑบาต อย่างเก่งก็ไปล้างหน้าแปรงฟันหน่อยหนึ่ง คว้าบาตรได้เดินเข้าหมู่บ้านไปบิณฑบาต เดินเข้าหมู่บ้านก็ภาวนาไปด้วย ท่านเดินกันจนทางเดินจงกรมสึกลึกถึงหัวเข่า ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะเดินได้ขนาดนั้น

บางท่านเดินขนาดนั้นแล้วกิเลสก็ยังไม่ยอมลงให้ ยังฟุ้งซ่านไปหา รัก โลภ โกรธ หลง อยู่ตลอดเวลา ท่านก็ใช้วิธีอดข้าว อดครั้งแรก ๓ วันไม่ได้เรื่อง ต่ออีกเป็น ๕ วันก็ยังไม่ได้เรื่อง ก็เป็น ๗ วัน ไม่ได้เรื่องอีกเป็น ๑๐ วัน ๑๒ วัน ๑๕ วัน หลวงปู่บางท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านอดจนแทบจะไม่มีแรงหายใจ แต่กิเลสก็ยังงอกงามเหมือนเดิม นึกแต่จะสึกไปมีเมีย ท่านก็เลยบอกว่า “เออ..ให้ตายเลย” ๑๕ วันไม่กินยังจะไปมีเมียอีก..!

ท่านบอกว่า ท่านอดซะจนเห็นแสงสีต่าง ๆ บินว่อนเต็มหน้าเลย บางทีก็ดาวทองขึ้นระยิบระยับไปหมด แปลว่าเลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่พอแล้ว “จะตายแล้ว” พอรู้ตัวว่าจะตายแล้วคราวนี้กิเลสหายหมดเลย รู้ว่าถ้ายังอาละวาดต่อตายแน่ ๆ เพราะเจ้าของร่างกายไม่ยอมถอยให้มัน ตายเป็นตาย

ในเมื่ออดจนกิเลสสงบได้อย่างใจ ท่านก็กลับมาฉันอาหารใหม่ ผ่อนอาหารมาเยอะก็ต้องฉันทีละน้อย เริ่มจาก ๒-๓ คำบ้าง วันรุ่งขึ้นก็เป็น ๔-๕ คำ จนกระทั่งฉันได้ตามจำนวนปกติ หลวงพ่อวัน อุตฺตโม วัดป่าภูผาเหล็ก มีชื่อไพเราะว่าวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม เป็นครูบาอาจารย์ที่ร่างกายสูงใหญ่มาก ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านออกบิณฑบาตหลังจากที่อดข้าวมานาน ถ้าจำไม่ผิดก็อดข้าวมา ๗ วัน ถามว่าทำไมหลวงพ่อต้องอดข้าวครับ ? ท่านบอกว่า ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรก...ท่านบอกว่าปฏิบัติธรรมกำลังอารมณ์ดี เมื่ออารมณ์ใจทรงตัว มัวแต่ไปเดินบิณฑบาตอยู่ก็เสียเวลา ก็ว่ายาวไปเลย อดเป็นอด คือเอาชีวิตเข้าแลกกับธรรมที่จะได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2016 เมื่อ 17:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 58 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา