ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 04-11-2013, 18:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,510
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,029 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าท่านทั้งหลายตามดูตามรู้ กำหนดรู้ต่อไปโดยไม่ได้ตกใจกลัว หรือดิ้นรนอยากจะให้ก้าวหน้ามากกว่านั้น กำลังใจของเราก็จะค่อย ๆ โดนดึงมารวมอยู่จุดเดียวกัน อาจจะอยู่ตรงหน้าในระดับสายตาก็ได้ หรือว่าอยู่ในระดับจมูกกับปากของเราก็ได้ หรือบางท่านก็มารวมอยู่ในอก ความรู้สึกจะรวบเข้ามาอยู่จุดเดียว เยือกเย็นสว่างไสวจนบอกไม่ถูก กำลังใจจะทรงตัวนิ่งอยู่ตรงจุดนั้น อะไรเกิดขึ้นทางภายนอกก็ไม่รับรู้ทั้งหมด ประสาทหู ประสาทตาดับหมด

คำว่าดับหมดในที่นี้ก็คือ ไม่รับรู้สิ่งที่มากระทบภายนอก ลืมตาอยู่ก็ไม่เห็นรูป เสียงดังอยู่ก็ไม่ได้ยินเสียง เพราะว่าจิตกับประสาทร่างกายแยกออกจากกันแล้ว อาการอย่างนี้เรียกว่าท่านก้าวเข้าสู่จตุตถฌาน คือระดับสมาธิของฌาน ๔

การที่ท่านก้าวเข้ามาตรงจุดนี้ ถ้าไม่มีการกำหนดกำลังใจเอาไว้ก่อน เรารู้สึกว่าครู่เดียว แต่อาจจะผ่านไปหลายชั่วโมง หรือข้ามวันข้ามคืนไปเลยก็มี ดังนั้น..เพื่อความปลอดภัยให้ตั้งใจว่า เราเข้าสมาธิครั้งนี้ เราภาวนาครั้งนี้ เราต้องการจะเลิกตอนเวลาเท่าไร อย่างเช่นว่า ๑ ชั่วโมง ครึ่งชั่วโมง เป็นต้น เมื่อเรากำหนดใจแล้วจึงเริ่มภาวนา ถ้าสมาธิทรงตัวถึงระดับอัปปนาสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นฌาน ๓ ฌาน ๔ ก็ตาม เมื่อครบตามเวลา จิตที่มีสภาพรู้ก็จะคลายกำลังออกมาเอง

การที่ท่านทั้งหลายทำมาถึงระดับนี้ได้ ตั้งแต่ปฐมฌานเป็นต้นไป อำนาจของสมาธิที่ทรงตัวแนบแน่นก็จะกดกิเลสใหญ่คือ รัก โลภ โกรธ หลง ซึ่งเป็นไฟใหญ่ ๔ กองเผาเราอยู่ตลอดเวลา ให้ไฟทั้ง ๔ กองนี้ดับลงชั่วคราว เราจะมีความสุขสงบ เยือกเย็นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ยิ่งทรงถึงระดับของฌาน ๔ แล้ว กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง นิ่งสนิทเหมือนล้มหายตายจากไปเลย หลายต่อหลายท่านเข้าใจผิด คิดว่าตนเองบรรลุมรรคผลไปแล้วก็มี ขอให้ทราบว่า นั่นเป็นเพียงอาการของสมาธิ ที่มีอำนาจเหนือกว่าไฟกิเลส จึงกดกิเลสให้ดับลงได้ชั่วคราว ถ้าท่านเผลอสมาธิหลุดเมื่อไร รัก โลภ โกรธ หลงก็จะตีกลับมา ทำให้เราต้องมาเดือดร้อน ฟุ้งซ่านรำคาญใจเมื่อนั้น

ดังนั้น..การที่เราปฏิบัติภาวนาไปแล้ว เมื่อสมาธิทรงตัวไปถึงระดับหนึ่ง ก็เป็นเรื่องปกติที่จะคลายตัวออกมาเอง เพราะไปต่อไม่ได้แล้ว ตอนที่สมาธิคลายตัวออกมานั้น เราต้องรีบหาวิปัสสนาญาณให้คิด ให้พิจารณา ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาจะเอากำลังที่เราทรงสมาธิภาวนาได้ ไปฟุ้งซ่านแทน และจะฟุ้งซ่านอย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นงานเป็นการ ชนิดยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เพราะว่าเขาแข็งแรง เนื่องจากได้กำลังสมาธิไปช่วย เมื่อถึงเวลาเราคลายกำลังใจออกมา จึงต้องนำมาพิจารณา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2013 เมื่อ 18:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 68 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา