ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 11-12-2023, 15:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,632 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..พอนักปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่ง ตอนท้าย ๆ นี่จะสนใจโลกภายนอกน้อยมาก จะหนังจะละครจะอะไรสนุกแค่ไหนก็ทิ้งหมด เพื่อที่จะลุ้นว่าแต้มนี้ใครได้ ? ถ้าเราพลาดก็ต้องศึกษาไว้ว่าพลาดตรงไหน ? คราวหน้าอย่าได้พลาดอีก ถ้าหากว่าเราชนะก็ต้องระมัดระวังไว้ว่า คะแนนต่อไปอย่าให้เขาตีคืนไปได้

ช่วงที่แพ้ชนะก้ำกึ่งกัน มึงบ้างกูบ้าง มึงทีกูที เป็นอะไรที่สนุกสุด ๆ แต่เป็นเรื่องสนุกที่หัวเราะไม่ออก เล่าให้คนอื่นฟังก็สนุก เจอด้วยตัวเองแล้วจะรู้ ว่าประเภทสายตัวแทบขาดเป็นอย่างไร ? เพราะว่ากิเลสนั้นถอนออกจากใจเรายากสุด ๆ ฝังรากลึกชนิดที่ปัญญาไม่ถึงก็ค้นไม่เจอ..!

พวกเราแค่ลองถามตัวเองดู คนที่เรารักมีไหม ? ของที่เรารักมีไหม ? ทรัพย์สมบัติมีไหม ? ถ้าต้องทิ้งทั้งหมดลงไปในวันนี้ทำได้ไหม ? มาตายตรงข้อนี้แหละ..! จะต้องหาข้ออ้างสักอย่างหนึ่งที่จะไม่ทิ้ง เพราะว่ากิเลสมีมายามาก "โอ๊ย..อย่าเพิ่งเลย ยังไม่แก่ ทิ้งไปหมดได้อย่างไร ยังต้องเหลือเอาไว้ใช้ เดี๋ยวชีวิตตอนแก่จะลำบากนะ..!" รู้ได้อย่างไรว่าจะอยู่ยันแก่..?! ถ้าเกิดตายไปวันนี้ล่ะ..?

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านปราภว่าอยากได้พระบวช ๓ รูป จะบวชให้ท่านได้ไหม ? อาตมาก็กราบเรียนท่านว่า "ขอคิดดูก่อนครับ" ซึ่งความจริงได้คือได้ ไม่ได้คือไม่ได้ แต่วันนั้นหลวงพ่อใจดี ไปส่งท่านที่สนามบินดอนเมืองไปนิวซีแลนด์ ท่านก็เลยหัวเราะ "เออ..เดี๋ยวพ่อกลับจากนิวซีแลนด์ ค่อยให้คำตอบก็ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2023 เมื่อ 17:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา