ถ้าถามว่าไม่อยากแล้วจะปฏิบัติไปเพื่ออะไร ? ก็ต้องตอบว่าในระหว่างก่อนการปฏิบัติเราอยากได้ อยากมี อยากเป็นอย่างไร ก็แล้วแต่ความอยากของเรา แต่ในช่วงขณะที่กำลังปฏิบัติอยู่ ให้ลืมความอยากทั้งหมด ตั้งหน้าตั้งตาตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออกของเราพร้อมกับคำภาวนาเท่านั้น
อาการใด ถ้าหากว่าเกิดขึ้นกับร่างกาย ผิดแปลกไปจากที่เคยเป็น ทำให้เรารู้สึกกลัวบ้าง ทำให้เรารู้สึกไม่ชอบใจบ้าง อาการทั้งหลายเหล่านั้น เราต้องตัดใจว่า เราตั้งใจปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น แม้จะต้องตายลงไปในครั้งนี้ เราก็ยินดีเพื่อแลกกับธรรมะที่จะพึงได้ ถ้าสามารถวางกำลังใจเช่นนี้ได้ ท่านก็จะเข้าถึงกองกรรมฐานต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว เพราะว่ากำลังใจมีความเข้มแข็ง มีความเด็ดขาด แต่ถ้าหากว่าตัดใจเช่นนี้ไม่ได้ โอกาสที่ท่านทั้งหลายปฏิบัติแล้วจะเกิดผลดีแก่ตนก็จะมีน้อย
โดยเฉพาะในเรื่องของคำภาวนาอย่าเปลี่ยนบ่อย ๆ เคยใช้แบบไหนให้ใช้แบบนั้น จะเป็นพุทโธ เป็นนะมะพะธะ เป็นสัมมา อะระหัง เป็นพองหนอ ยุบหนอ หรือจะเป็นตัวบทพระคาถาใด ๆ ที่เราชอบก็ตาม ถ้าเคยทำอย่างไรมาให้ทำเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นแล้วสภาพจิตของเราที่เคยชินกับของเก่า ถึงเวลาแล้วต้องบังคับให้จดจำของใหม่ สภาพจิตก็จะมีการยื้อแย่งกันไปมา ของเก่าก็ไม่ได้ ของใหม่ก็ไม่ดี กลายเป็นเสียเวลาในการปฏิบัติ เพราะว่าเราเปลี่ยนคำภาวนาบ่อย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-05-2019 เมื่อ 03:53
|