สอนตนจริง สอนผู้อื่นก็จริง
ในอดีตช่วงเรียนหนังสือและออกปฏิบัติ การเทศนาว่าการของท่าน มีแต่การเทศน์สอนตนเองตลอดมา หากมีเทศน์บ้างก็เพราะเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ดังนี้
“... พอออกปฏิบัติแล้ว ทีนี้มันก็เป็นมหาแล้วล่ะ การเทศนาว่าการก็ไม่ได้เป็นอารมณ์ ... ไม่เคยสนใจกับการเทศน์ให้ใครฟัง นอกจากเทศน์สอนเจ้าของอย่างเดียว แต่ก็หากมีที่จำเป็นจนได้นั่นแหละ บางทีไปก็ไปพักอยู่บ้านใดบ้านหนึ่ง เขามีงานในบ้านของเขา เขาต้องมานิมนต์เราไปเทศน์ เราบอกว่า ‘เทศน์ไม่เป็น’
เขาไม่ยอมเชื่อเลย เขาว่า ‘เป็นมหาแล้ว โอ๊ย.. อย่าว่าเลยว่าเทศน์ไม่เป็น’ เขาว่านะเนี่ย มหาก็ฆ่าตัวเองได้เหมือนกันนะ เขาไม่ยอมเชื่อเลย ‘ลงเป็นมหาแล้ว เทศน์ไม่เป็นไม่มี’ เขาว่าเลย.. อันนั้นก็ไปเทศน์
เวลาจำเป็นจริง ๆ หากมีเป็นบางแห่ง ๆ เพราะเราเที่ยวไปหลายแห่ง ไปบางทีก็มีงานในหมู่บ้านของเขา เขาก็นิมนต์เรามาเทศน์ มันก็จำเป็นต้องได้มา นาน ๆ ที นอกนั้นไม่เอาไหนละ.. ไม่เทศน์นะ เทศน์สอนใครไม่เทศน์เลยละ
จากเรียนมาเข้าด้านปฏิบัติแล้วยิ่งไม่สนใจเลย นอกจากจำเป็นอย่างที่ว่านี้ เราก็เทศน์ให้ฟังเสียบ้างเท่านั้น นอกนั้นไม่เอาเลย ๆ จากนั้นมามันก็เกี่ยวข้องกับเพื่อนกับฝูง กับประชาชน ญาติโยม ก็ต้องได้เทศน์ไปเรื่อยละ... เรื่อยมาจนกระทั่งป่านนี้