"หลายท่านให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ บอกว่าเวลามากรุงเทพฯ ให้โทรศัพท์ไปหาด้วย ถึงขนาดปวารณาไว้ว่า สร้างหนี้ไว้เท่าไร เขาจะช่วยจัดการให้ อาตมาไม่โทรไปหรอก..เสียเวลา เห็นใจว่าเขาเคยยกหูโทรศัพท์ช้าไป ๕ นาที เจ๊งหุ้นไป ๒๐ กว่าล้านบาท แล้วคนประเภทนี้เขาจะมีเวลามาหาหรือ ? ถ้าตอนมาหาพระพอดีหุ้นตกอาตมาก็ซวยสิ..!
บางทีเขาก็น้อยอกน้อยใจ มาถึง “ผมปวารณาไว้ตั้งนานเนกาเล ทำไมท่านไม่ขออะไรบ้างเลย ?” บอกว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน ในกระเป๋ามีเท่าไรเอามาแค่นั้น” เขาเปิดกระเป๋าเอกสาร เทมามีอยู่เกือบ ๔ แสนบาท..! เขาบอกว่าเพิ่งไปจ่ายเงินลูกน้องมา ถ้าไม่จ่ายเงินให้ลูกน้องจะมีให้อาจารย์เยอะกว่านี้ ท่านเหล่านี้ต้องบอกว่านิสัยไม่ดี ทำอะไรชอบทำคนเดียว
อย่างเขาไปเดินดูที่เกาะพระฤๅษี จะมีชื่อเจ้าภาพติดอยู่ กุฏิหลังนี้เจ้าภาพชื่อนี้ ๆ เขาเดินดูทั่วเสร็จสรรพ แล้วถามว่า “แล้วของผมอยู่ไหน ?” อาตมาก็บอกว่า “อ๋อ...ที่เหลือของโยมทั้งวัดนั่นแหละ” ที่คนอื่นถวายเป็นเจ้าภาพมาพอเสียที่ไหนเล่า ? อาคารหลังหนึ่ง ศาลาหลังหนึ่งแพงกว่านั้นตั้งเยอะ แต่คิดเขาไปแค่นั้น ส่วนที่เหลือก็เงินโยมนั่นแหละ เขาก็น้อยใจที่ไม่มีชื่อติด เดี๋ยวก็เอาไปติดหน้าส้วมให้เสียหรอก..!
อาตมาก็เลยไม่ค่อยจะโทรศัพท์ไปหา ปล่อยไปเถอะ เขารู้เมื่อไรเขาก็มาเอง บางรายก็ต้องสั่งเลขาฯ ไว้เลย ช่วยดูวันเวลาให้ด้วย พระอาจารย์มาเมื่อไรเขาจะได้มาหา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2013 เมื่อ 18:21
|