ดูแบบคำตอบเดียว
  #38  
เก่า 17-04-2012, 16:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,638
ได้ให้อนุโมทนา: 151,906
ได้รับอนุโมทนา 4,415,157 ครั้ง ใน 34,228 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ประการที่ ๒ ก็คือ พุทธศาสนิกชนทั่วไปที่กำลังใจยังยึดเกาะสิ่งต่าง ๆ อยู่ ก็จะได้มีสิ่งที่ยึดเกาะอยู่ในกรอบ อยู่ในขอบเขตที่ถูกต้องและสมควร อย่างไรเสียก็ไม่หลุดไปจากกรอบของพระพุทธศาสนา

ประการที่ ๓ การสร้างวัตถุมงคลเป็นการสืบพระพุทธศาสนาส่วนหนึ่ง ก็คือมีครูบาอาจารย์หลายต่อหลายรูป ที่มีความสามารถ มีคนให้ความเคารพศรัทธา สนับสนุนในการสร้างวัตถุมงคล เพื่อบรรจุกรุไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่ก็ต้องสร้าง ๘๔,๐๐๐ องค์ เป็นต้น

ประการที่ ๔ ก็คือวัตถุมงคลที่มีอานุภาพอย่างแท้จริงนั้น สามารถช่วยตัดเคราะห์กรรมให้แก่ผู้ที่นำไปใช้ โดยเฉพาะว่าช่วยในการป้องกันรักษาประเทศชาติของเรา สมัยก่อนทหารเวลาออกรบต้องมีวัตถุมงคลที่มั่นใจว่าคุ้มครองรักษาตัวเองได้ ส่วนใหญ่ก็เน้นไปทางแคล้วคลาด หรือคงกระพันชาตรี เป็นต้น บรรพบุรุษของเราก็อาศัยวัตถุมงคลทั้งหลายเหล่านี้ในการสู้รบกับข้าศึกศัตรู จนกระทั่งสามารถปกป้องรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้ได้ หรือว่าช่วงชิงแผ่นดินไทยของเรากลับคืนมา เป็นที่ตั้งของพุทธศาสนา เป็นเรือนอยู่เรือนตายของพวกเราทั้งหลายได้

ฉะนั้น..ในเรื่องของวัตถุมงคลจะว่าไปแล้วมีคุณอนันต์ แต่ว่าปัจจุบันนี้จะมีการทำในลักษณะของเชิงพาณิชย์มากเป็นพิเศษ จะมีการกำหนดราคาเพื่อเอากำไร การสร้างวัตถุมงคลส่วนใหญ่แล้ววัดไม่ได้สร้างเอง แต่ว่ามีนายหน้าที่เล็งเห็นว่า ครูบาอาจารย์วัดไหนมีชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมาก ก็จะขออนุญาตไปสร้างวัตถุมงคลจำนวนเท่านั้นเท่านี้ แล้วก็จะแบ่งส่วนหนึ่งถวายให้แก่ทางวัด เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายทำนุบำรุงเสนาสนะ บางเจ้าที่ตรงไปตรงมาก็มี บางเจ้าที่หลอกลวงกันก็มาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2012 เมื่อ 18:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา