ดูแบบคำตอบเดียว
  #19  
เก่า 14-05-2014, 11:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,619
ได้ให้อนุโมทนา: 151,818
ได้รับอนุโมทนา 4,413,361 ครั้ง ใน 34,209 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรณีที่เขาสมาทานศีล ๘ โดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง ?
ตอบ : ถ้าไม่รู้ว่ามีอะไร ก็แปลว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะละเว้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะละเว้นอานิสงส์ก็ไม่มี ศีล ๘ ก็คือศีล ๕ บวกไปอีก ๔ ข้อ อ้าว...เป็น ๘ ได้อย่างไร ? คือ ข้อที่ ๑ เว้นจาการฆ่าสัตว์หรือทำร้ายสัตว์ให้ลำบากโดยเจตนา ข้อที่ ๒ เว้นจากการลักขโมยหรือหยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้

ข้อที่ ๓ เว้นจากการสัมผัสระหว่างเพศ คนที่เคร่งครัดจริง ๆ สมัยก่อนเขาแยกตัวไปนอนต่างหากเลย อย่างเช่นว่าไปนอนถืออุโบสถศีลที่วัด หรือหลายบ้านก็แยกไปนอนในห้องพระสักคนหนึ่ง ข้อที่ ๔ คืองดเว้นจากการโกหกเช่นกัน แต่ถ้าจะให้ดีก็ให้เว้นจากการพูดคำหยาบ เว้นจากการพูดส่อเสียด และเว้นการพูดเพ้อเจ้อที่ไร้ประโยชน์ด้วย ข้อที่ ๕ เว้นจากสุรายาเสพติดทั้งปวง

ข้อที่ ๖ เว้นจากการกินอาหารหลังเที่ยงไปแล้ว เพื่อที่จะไม่ต้องมาวิตกกังวลว่า จะต้องเตรียมอาหารอีกมื้อหนึ่ง ขณะเดียวกันร่างกายที่เว้นจากอาหาร เลือดลมเดินคล่องตัว การภาวนาก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น ข้อที่ ๗ บวกกับข้อที่ ๘ รวมเป็น ๑ ข้อ ก็คือเว้นจากการดูการละเล่น ขับร้อง ฟ้อนรำ ประโคมดนตรี เว้นจากการตกแต่งร่างกาย หรือว่าประดับด้วยเครื่องประดับที่มีค่า เว้นจากของหอมเครื่องย้อมเครื่องทาทั้งหมด ข้อที่ ๘ จริง ๆ เป็นศีลข้อที่ ๙ ของสามเณร ก็คือเว้นจากที่นอนสูง ที่นอนใหญ่ ที่ภายในยัดด้วยนุ่นและสำลี

ถ้าอยู่ในสถานที่ซึ่งไม่แน่ใจว่าคนมีความเข้าใจหรือเปล่า ก็ควรที่จะแปลให้ญาติโยมเขาฟังด้วย เมื่อช่วงประมาณ ๒ อาทิตย์ที่ผ่านมา มีคณะญาติโยมจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตไปทำบุญที่วัดท่าขนุน เมื่อสมาทานศีลอาตมาก็แปลศีลให้ฟังด้วย เพราะมั่นใจว่าที่สมาทานส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่าศีลจริง ๆ เป็นอย่างไร เรียกว่าทำตามพิธีกรรมเท่านั้น

ศีลเป็นพื้นฐานของสมาธิและปัญญา ถ้าศีลไม่ทรงตัว สมาธิจะไม่เกิด การที่เราระมัดระวังรักษาศีลอยู่ทุกอิริยาบถ ก็คือการฝึกสมาธินั่นเอง ขณะเดียวกันถ้าไม่มีสมาธิ ก็จะไม่มีสิ่งที่จะมายับยั้งชั่งใจของตัวเองในการที่จะละเมิดศีล ดังนั้น...การรักษาศีลสร้างสมาธิให้เกิด เมื่อสมาธิเกิดจะมาช่วยระงับยับยั้งใจของตนเองในการรักษาศีลอีกทีหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-05-2014 เมื่อ 16:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา