พระอาจารย์กล่าวว่า "รู้ไหมว่าเดี๋ยวนี้กะเหรี่ยงตามชายแดนของบ้านเรา ถ้าวันไหนไม่ได้กินกาแฟจะทำงานไม่ได้ อะไรจะรุนแรงขนาดนั้น ? ส่วนใหญ่แรก ๆ เกิดจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวหมู่บ้านเขา ถึงเวลาตัวเองกินกาแฟ ก็ไปชวนกะเหรี่ยงกินด้วย พวกนั้นพอกินเข้าไปก็คึกคัก ทำงานขยันขันแข็ง ก็เลยกินต่อ ๆ กันมา พอเขาไม่เอาเข้าไปให้ก็เลยซื้อเอง ปีที่แล้วทางด้านบ้านคลิตี้ เขาทำวิจัยไว้ว่า ค่ากาแฟเป็น ๗๐ เปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายในครัวเรือนทั้งปี กินกันดุเดือดขนาดนั้น
บ้านตะเพินคี่ที่อาตมาไปเป็นประจำ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็คือโซเวีย เวลาชงกาแฟใส่ที ๒ ช้อนโต๊ะ..! ไม่ได้ใส่ ๒ ช้อนชา เอากาแฟสำเร็จรูปไปให้ เขาบอกว่าไม่เห็นจะลื่นคอเลย ต้องเล่นประเภททีหนึ่ง ๒ ช้อนโต๊ะ บอกให้รู้ไว้ เผื่อพวกเราไม่สามารถจะทำงานได้ถ้าไม่ได้กินกาแฟ ให้รู้ว่าแย่แล้ว ตอนนี้กะเหรี่ยงทั่วประเทศไทยแค่ไม่มีกาแฟขายก็จบแล้ว ทำงานไม่เป็นหรอก
แถวคลิตี้ขึ้นไปผ่านทางด้านทุ่งใหญ่ ออกไปทางไล่โว่ด้านสังขละบุรี เขาปลูกกาแฟกันมาตั้งแต่ ๓๐-๔๐ ปีที่แล้ว ปัจจุบันนี้กำลังโด่งดังมาก เขาเรียกว่ากาแฟกะเหรี่ยง แต่ว่าพวกเขาคั่วกันไม่เป็น ได้แต่เก็บเม็ดขาย ในเมื่อคั่วกันไม่เป็น ถึงเวลาก็ต้องมาซื้อกาแฟข้างนอกนั่นแหละ กลายเป็นว่าทำเงินได้เท่าไรกลายเป็นค่ากาแฟจนหมด
คนที่กินกาแฟประจำ ๆ พออายุมากขึ้นจะเป็นโรคหัวใจทุกคน เพราะกาแฟไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นผิดปกติ ก็คือเต้นเร็วขึ้น พอกาแฟเริ่มหมดฤทธิ์หัวใจเริ่มเต้นตามปกติ เราก็กินเข้าไปใหม่ หัวใจก็เต้นผิดจังหวะอีก นาน ๆ ไปจะเกิดอาการที่เรียกว่าหัวใจพิการ เต้นไม่เป็นจังหวะ แล้วก็พาให้อาการหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ แม้กระทั่งในหลวงพระองค์ท่านยังทรงตรัสเลยว่า พระองค์ท่านไม่เสวยกาแฟแล้ว เพราะกาแฟนั้นเซาะหัวใจ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2014 เมื่อ 02:06
|