ดูแบบคำตอบเดียว
  #32  
เก่า 10-07-2014, 13:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ระยะนี้ค่าไฟฟ้าวัดท่าขนุนขึ้นเยอะ เพราะว่าก่อนหน้านี้ใช้ร่วมกับเทศบาลแล้วไฟไม่ค่อยพอใช้ จึงไปซื้อหม้อแปลง ๒๕๐ KVE มาให้เขาเดินสายไฟใต้ดิน ต่อเข้าอาคารต่าง ๆ เกือบครบแล้ว ก็แปลว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ค่าไฟเป็นของทางวัดล้วน ๆ คงจ่ายกันหน้ามืดตาลาย

ส่วนใหญ่ด้วยความเคยชิน ถึงเวลาก็ใช้ล้างใช้ผลาญตามปกติเหมือนที่ใช้ที่บ้าน พัดลมตัวเบ้อเร่อ ขนาดเปิดเบอร์ ๓ ก็พัดเราปลิวแล้ว โยมนอนแล้วเปิดใส่ตัวเองคนเดียว ทั้งที่ใช้ได้ทั้งศาลา แต่โยมเขาเป่าใส่ตัวเองคนเดียว ก็ลองคิดดูว่าคนหนึ่งใช้ขนาดนั้นแล้วจะเหลือหรือ ?

ศาลาใหม่ที่ทำอยู่ ตอนแรกตั้งใจว่าจะติดเครื่องปรับอากาศให้ ปรากฏว่าเขาไปคำนวณพื้นที่แล้ว ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ ๕๐ ตัว..! จะต้องมีกำลังไฟต่างหากเลย ๑๕๐ แอมป์ถึงจะพอ ก็เลยตัดใจเอาพัดลมต่อไปเถอะ เพราะว่าสายไม่ได้เดินเตรียมไว้ ต้องขุดใต้ดินเริ่มต้นใหม่เลยอีกสายหนึ่ง ๑๕๐ แอมป์นี่ไฟโรงงานเลยนะ ปกติไฟบ้านสูงสุดเขาให้ไม่เกิน ๑๕ แอมป์ ไม่ได้เดินสายไม่ว่า ถ้าหากว่าเปิดพร้อม ๆ กัน คงดึงไฟจากส่วนอื่นมาหมดเลย

สมัยอยู่ที่เกาะพระฤๅษี พอทำวัตรเย็นเสร็จก็ปิดไฟหมดทั้งเกาะ นอน..ตอนนี้ที่วัดท่าขนุนอาตมานอนที่ตึกแดงหลังใหญ่ พระอยู่กุฏิเตชะไพบูลย์ ๒๐ ห้อง ตึกประจวบดี ๒๐ ห้อง ปิดไฟเงียบ มืดตื๋อ..ใครจะขโมยของนี่เดินสะดุดเลย เพราะมองอะไรไม่เห็น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-07-2014 เมื่อ 14:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา