ชื่อกระทู้: อัศจรรย์โลกใบนี้
ดูแบบคำตอบเดียว
  #79  
เก่า 27-07-2010, 11:49
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,871 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

บุญบารมีนั้นเป็นทานละเอียด ล่องลอยมาเหมือนพลังงานของเสียง พลังงานแม่เหล็กและพลังงานของภาพ หากเรามีเครื่องรับที่มีประสิทธิภาพ ภาพเสียงก็คมชัด ผู้ให้มีเจตนาบริสุทธิ์ได้แผ่มาให้ ผู้รับจึงต้องทำใจให้บริสุทธิ์จึงจะรับได้ ไม่ใช่เอาวิทยุไปรับภาพทีวี ก็รับไม่ได้ ต้องกระแสคลื่นเดียวกัน วิทยุรับวิทยุ ทีวีรับทีวี มันเป็นกฎของธรรมชาติฝืนไม่ได้ แต่เป็นอริยสมบัติของทุก ๆ คน ไม่ต้องแย่งกันรับ ให้รับเอาเอง ลงทุนอย่างเดียว ตั้งศรัทธาทำจิตให้บริสุทธิ์เท่านั้น เป็นทุนในการรับเอาบารมีกุศล

อีกประเด็นหนึ่ง การที่พุทธศาสนิกชน ได้ประกอบกิจการทางศาสนาในวันสำคัญต่าง ๆ ได้จัดพิธีเวียนเทียนรอบอุโบสถเป็นประจำสืบทอดกันมาแต่โบราณ ไม่ใช่ไม่มีเหตุที่มา ผลที่ได้ปฏิบัติกันอยู่จนทุกวันนี้มีเหตุมีผล การเวียนเทียนรอบพระอุโบสถสามรอบนั้น รอบแรกให้สวดพระพุทธคุณ ในรอบสอง รอบสามให้สวดพระธรรมคุณ พระสังฆคุณตามลำดับนั้น

ก็เพื่อขอพรจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ประทับอยู่เป็นองค์ประธานในพระอุโบสถ เป็นการเปิดรับบารมีเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าในวันสำคัญ เพื่อทำการสักการะพระพุทธองค์ *เพื่อขออาราธนาพระพุทธบารมีอันศักดิ์สิทธิ์ และพุทธฉัพพรรณรังสีเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข*

เหมือนตอนข้าพเจ้าได้เวียนรอบปราสาทสามรอบ ผ้าใยแก้วที่คลุมอยู่พร้อมประตูก็เปิดออก ให้ได้ชมภายในปราสาทเป็นทำนองเดียวกัน เป็นกฎเกณฑ์ให้ได้รับพระพุทธพรจึงต้องเวียนสามรอบ ข้อนี้น่าคิด น่าพิจารณาเพื่อว่าเมื่อไปทำพิธีกรรมในการเวียนเทียน จะได้ตั้งจิตให้ตรงกับเหตุผลที่ได้กระทำ ไม่ใช่เห็นเขา เราก็ทำตามเพราะผลมันแตกต่างกัน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 27-07-2010 เมื่อ 14:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา