ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 11-04-2024, 00:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,155 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง วันนี้ในกลุ่มไลน์คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา คุณครูจำรัส คมขำ อดีตครูปกครอง ปัจจุบันเป็นกรรมการสถานศึกษา เพราะว่าเกษียณอายุแล้ว ได้นำเอาข้อมูลของโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย ซึ่งปีนี้มีเด็กสอบเข้าเรียนปริญญาตรีแพทย์ศาสตร์ได้ ๔๒ คน เอามาลงเอาไว้

บอกว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มาก เพราะว่าทางโรงเรียนได้เน้นเด็กตั้งแต่เริ่มเข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีการให้บรรดาสถานสอนพิเศษต่าง ๆ ไปเปิดสาขาในโรงเรียน กระตุ้นเด็ก นอกจากเรียนตามปกติแล้วยังมีการติว คือทบทวนวิชาเป็นพิเศษด้วย มีการสอบระดับต่าง ๆ ในอำเภออื่น หรือในจังหวัดก็ส่งเด็กไปสอบ เพื่อให้คุ้นชินกันการแข่งขัน

ครั้นเข้ามัธยมศึกษาปีที่ ๔ ก็ล้างไพ่ใหม่ ให้เด็กเก่งทั้งหมดสอบแข่งขันกันอีกที เพื่อเข้าสู่ห้องพิเศษ แล้วการดำเนินการก็ลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อเน้นในการแยกสายวิชา ว่าจะเป็นสายวิทย์ หรือว่าสายศิลป์ ถ้าเป็นสายศิลป์จะเป็นศิลป์แบบไหน ?

กระผม/อาตมภาพท้วงติงไปว่า เรื่องการแข่งขันการเรียนแบบนั้น ทำให้เด็กเครียดเสียเปล่า ๆ การสอบเข้าเรียนแพทย์ได้ไม่ได้ประสบความสำเร็จ เพราะว่านั่นเพิ่งจะสอบเข้าได้ นรกที่แท้จริงยังรออยู่อีก ๖ ปีข้างหน้า..! ซึ่งเด็กที่ทนแรงกดดันไม่ไหว มีทั้งลาออก มีทั้งซึมเศร้า มีทั้งฆ่าตัวตาย
ถ้าเราจะเอาตัวอย่างของเขา ก็เอาแค่แรงบันดาลใจในการส่งเสริมการศึกษาเท่านั้น

ในฐานะคณะกรรมการสถานศึกษา กระผม/อาตมภาพให้คำแนะนำว่า โรงเรียนทองผาภูมิวิทยาของเรา ไม่ควรจะเน้นเด็กทาง IQ คือความจำ แล้วเอาไปแข่งขันกันสอบเข้า แต่ให้เน้นทางด้าน EQ ก็คือ
การมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างด้วยวุฒิภาวะที่เหมาะสม ถ้าสามารถทำให้เด็กได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ จนกระทั่งสามารถต่อยอดไปเป็นอาชีพของตัวเองได้ยิ่งดี เพราะว่าบริบทของแต่ละโรงเรียนไม่เหมือนกัน ต่อให้ผู้บริหารมีแนวคิดที่เหมือนกัน ก็ไม่แน่ว่าจะจัดการได้แบบเขา

โดยเฉพาะการเรียนในปัจจุบันนั้น ความสำคัญลดน้อยถอยลงไป เนื่องเพราะว่าเด็ก ๆ สามารถค้นหาความรู้จากอินเตอร์เน็ตได้ บรรดาอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งเป็นหุ่นยนต์เทียมมนุษย์ สามารถกรอกความรู้เหล่านี้ให้เราได้ในทันทีทันใด ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ความมั่นคงทางอารมณ์ หรือวุฒิภาวะ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า เพราะว่าเด็ก ๆ ต้องออกไปผจญกับโลกที่โหดร้ายอย่างแท้จริงในยามที่ไปประกอบอาชีพ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2024 เมื่อ 02:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา