จะกล่าวความย้อนไป ท่านสุเมธดาบส ลุยเลนลุยโคลน ปรับดินจองถนนกับชาวบ้าน มีกุมารีผู้หนึ่ง
ชื่อ "สุมิตตา" จ้องมองพระองค์ท่านด้วยความชื่นชม ชาวบ้านต่างเร่งมือ ทั้งสองก็ต่างเร่งมือ เอาดินถมเลนเช่นกัน เหลือเพียงแค่ช่วงตัวคนนอนเท่านั้น
ในที่สุด คณะของพระองค์พระพุทธีปังกรพุทธเจ้าก็เสด็จราชดำเนินมาถึงพร้อมด้วยพระอริยะสงฆ์อีกหนึ่งโกฏิ
"สุมิตตาน้องหญิง" ก็รำพึงว่า "เหลือแค่อีกช่วงตัวแท้ๆแต่ไม่ทันการแล้ว"
ทันใดทัน พระสุเมธดาบสก็ปลด ผ้าพันศีรษะและผ้าครองคุมหน้าอกแบบฤๅษีออกปูลงไปบนเลนเหลวอย่างบรรจงพร้อมเปล่งวาจาว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญขอ อารธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยพระสาวกขีณาสพทั้งหลาย.....ทรงดำเนินเหยียบไปบนกายของข้าพระองค์ที่จักทอดกายเป็นสะพานนี้ด้วยเถิด เพื่อได้เกิดประโยชน์โสตถิผลอันยิ่งใหญ่แก่ข้าพระองค์อย่าได้ทรงย่างพระบาทหลีกลงลุยเลนเหลวนี้เลย"
ด้วยพระพุทธบารมีแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระพุทธทีปังกรทรงทราบวาระอันประเสริฐนี้ จึงได้กล่าวต่อหน้ามหาชนทั้งหลายว่า
"ดูกรท่านทั้งหลาย ดาบสผู้นี้เธอสั่งสมบรมโพธิสมภาร เป็นพุทธังกูรหน่อพระชินสีห์โพธิสัตว์มานาน สืบไปเบื้องหน้ากำหนดได้ ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป เธอจะได้ตัรสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า สมเด็จพระศรีศากยมุนีโคดมบรมครู สัมมาสัมพุทธเจ้า"
สร้างความปิติยินดีแด่มหาชนทั้งหลายที่ทราบข่าว ร่วมทั้ง พรหม เทวดา มากมายต่างยินดี และในที่นั้น
"สุมิตตาน้องหญิง" ก็เช่นกัน แต่ด้วยวาระอันมาถึงนี้ พระนางจึงรับรู้ถึงวาระพิเศษ จนไม่อาจจะทรงหยุดยืนอยู่ได้ วิ่งออกไปจากคณะ ไปเก็บดอกบัวในสระใกล้ มาแปดดอก แล้วค่อย คุกเขาย่อตัวลงต่อหน้า พระทศพลทีปังกรพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์และคณะยืนประทับ อยู่ใกล้ร่างของท่านสุเมธดาบส
พระนางได้เปล่งวาจาว่าต่อหน้าพระสัมมาสัมพุทธทีปังกรเจ้าว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจิรญผู้ทรงคุณอนันต์อันประเสริฐด้วยอานิสงส์ที่ข้าพระบาทได้กระทำสักการบูชาในกาลบัดนี้ ขอให้สุเมธดาบสจงเป็นสามีของข้าพระบาทสมใจในภายภาคหน้าด้วยเถิด พระเจ้าข้า"
สร้างความตลึงไปแก่มหาชนทั้งหลาย และ ท่านสุเมธดาบสยิ่งนัก จนพระองค์ท่านต้องเปล่งวาจาทัดทานออกมาว่า
"น้องหญิง ความต้องการของเจ้าแม้เป็นความปรารถนาที่ดี แต่เราจะชอบใจสักนิดก็หาไม่ ขอเจ้าจงถอนความปรารถนานั้นเสียเถิด"
สุมิตตาเถรี ก็ ทูลขอพรแด่ พระพุทธีปังกรพุทธเจ้าอย่างตั้งใจตามความประสงค์เดิม "พระองค์ทรงโปรดให้ข้าพระบาทสมปรารถนาด้วยเถิดพระเจ้าข้า"
"เจ้าจงปรารถนาสิ่งอื่นเถิดน้องหญิง" ท่านสุเมธดาบส ทัดทาน
ทันใดนั้น พระสุรเสียงกันกังวาลแห่งพระพุทธีปังกรพุทธเจ้าก็ ปรารภออกมาโดยธรรมอันปราณีตว่า
"ดูกร สุเมธดาบส ตัวท่านอย่าห้ามความปรารถนาของกุมารีน้อยผู้นี้เลย เพราะว่าในอนาคตภายหน้านางจะเป็นที่พึ่งแก่ท่าน ขณะที่ตัวท่านบำเพ็ญพุทธบารมีธรรมเพื่อบ่มพระบรมโพธิญาณให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์"
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 03-03-2009 เมื่อ 19:01
|