พระอาจารย์กล่าวถึงพระกริ่งปลดหนี้ว่า
"มีชนวนเหลือจากหล่อเหรียญพุทธบารมีทองคำอยู่ ๑๓ บาทกว่า ๆ อาตมาเอาใส่ลงในพระกริ่งเนื้อทองคำหมดเลย อย่าลืมว่าเหรียญพุทธบารมีนั้น มีทั้งยันต์มหาสะท้อน และยันต์ทำน้ำมนต์ด้วย เพราะฉะนั้น..ถ้าใครอยากได้ตะกรุดมหาสะท้อนทองคำ หาไม่ได้ก็หาพระกริ่งปลดหนี้แทน แต่รู้สึกว่าจะแพงโคตรแล้ว เห็นในเว็บยังหลงอยู่องค์หนึ่ง ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามีคนถวายมา อาตมาก็เอาลงไปเรื่อย ๆ เพราะกระทู้ชื่อคนมีเงินเหลือกินเหลือใช้ ถ้าใครเข้าไปแสดงว่าต้องเหลือกินเหลือใช้จริง ๆ
อ้างอิงจากเก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์ถามเจ้าหน้าที่ผลิตวัตถุมงคลว่า
"บล็อกตะกรุดมหาสะท้อนยังอยู่ไหม ? จะได้ทำเนื้อทองคำสักชุดหนึ่ง เมื่อเช้าไปเขี่ย ๆ ดูในกระทู้ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่ามีคนอยากได้เยอะ ทำเนื้อทองคำสัก ๓๐๐ ดอกก็พอ"
ถาม : แล้วตะกรุดมหาสะท้อนที่เหลือ ?
ตอบ :
เหลือเอาคืนมา เดี๋ยวจะขึ้นเป็นดอกละหมื่น...! เรื่องตะกรุดทองคำต้องมีคนไปบนพระหรือว่าไปบ่นกับพระแน่เลย ไม่รู้ว่าบนหรือบ่น
อ้างอิงจากเก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์กล่าวว่า
"ตะกรุดมหาสะท้อนทองคำ รุ่น ๕ เพิ่งจะเข้าพิธีพุทธาภิเษกล่าสุดที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่มา ในงานก็มีตุ๊พ่อสิงห์กับหลวงตาวัชรชัยร่วมพิธีด้วย ต้องบอกว่านาน ๆ ทีจะมีตะกรุดมหาสะท้อนเข้าพิธีใหญ่สักครั้งหนึ่ง เพราะปกติเขียนเสร็จก็เสกในตัวใช้ได้เลย
ตะกรุดมหาสะท้อนบังคับเลยว่าต้องเป็นวัตถุมีค่า ต่ำสุดก็คือเงินแท้ หรือนาก หรือทองคำเท่านั้น น้ำหนักต้องไม่ต่ำกว่า ๑ บาท นี่เป็นวัตถุมงคลเนื้อทองคำรุ่นเดียว ที่อาตมาคิดราคาเท่ากับราคาท้องตลาด เพราะราคาวัตถุมงคลในตลาดที่เป็นเนื้อทองคำ คำนวณราคาทองคำที่ใช้ทำออกมาเป็นเงินแล้วคูณด้วย ๓ ก็คือราคาที่เขาออกให้บูชากัน แต่อาตมาคิด ๓ บาทพอดี ถ้าหากจะเอา ๓ เท่าพอดีต้องเกิน ๓ บาทไปหน่อย ๆ เพราะว่าเราจะให้ตะกรุดหนัก ๑ บาทตรง ๆ ไม่ได้ ต้องให้เกินไว้นิดหนึ่ง..เผื่อขาด
ส่วนใหญ่แล้วพอนานไปก็จะมีการเพี้ยน ครูบาอาจารย์ท่านระบุไว้อย่างไรก็ไม่ทำตามนั้น ซึ่งถ้าต้องการให้เป็นมหาสะท้อน แปลว่าน้ำหนักต่ำสุดต้องหนักบาทหนึ่งขึ้นไป และเป็นโลหะมีค่า ก็คือเงิน นาก หรือทองคำ เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า โลหะมีค่าแต่ละชนิด ทำไมถึงต้องใช้ต่างกัน ? ท่านบอกว่า วัตถุมงคลยิ่งสร้างด้วยโลหะมีราคาสูงเท่าไร พรหม เทวดาที่รักษาก็ยิ่งมีอานุภาพหรือศักดานุภาพสูงเท่านั้น แล้วก็ไม่ต้องไปหาอีก เพราะว่าปกติอาตมาไม่เคยทำตะกรุดเนื้อทองคำเป็นสาธารณะ เพิ่งจะมีครั้งนี้ครั้งแรกและครั้งเดียว ถ้าพระท่านไม่อนุญาตก็ไม่กล้าทำ
ตอนนี้ถ้าใครจะซื้อทองคำ อย่าเพิ่งไปสนใจราคาที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ให้ซื้อเอาไว้ก่อน จะขาดทุนกำไรเล็กน้อยอย่างไรช่าง เพราะอาตมายืนยันว่าอีกไม่นานราคาทองคำจะแพงหูดับ..!"
อ้างอิงจากเก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๘