ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 08-06-2019, 22:30
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 445
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,790 ครั้ง ใน 1,587 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

เมื่อความรู้สึกของเราเริ่มทรงตัวแล้ว ให้กำหนดภาพพระที่เรารักเราชอบขึ้นมา จะเป็นภาพของสมเด็จองค์ปฐมก็ได้ พระวิสุทธิเทพก็ได้ หรือจะเป็นพระพุทธรูปสำคัญ อย่างพระแก้วมรกต พระพุทธชินราช หรือหลวงพ่อโสธรก็ได้ หรือถ้าท่านใดมีวัตถุมงคลที่ตัวเองรัก ตัวเองชอบ เป็นรูปพระพุทธ ก็ให้นึกถึงภาพพระพุทธเจ้าในวัตถุมงคลชิ้นนั้น หายใจเข้า..ให้ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ภาพพระเลื่อนขึ้นไปอยู่บนศีรษะของเรา อย่าไปกำหนดขนาดและความชัด เอาขนาดที่เรากำหนดใจจับได้สบาย ๆ ส่วนความชัดเจนนั้น จะมีมาก็ต่อเมื่อสมาธิของเราทรงตัว สมาธิยิ่งทรงตัวมั่นคงเท่าไร ภาพพระก็จะชัดเจนเท่านั้น

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่ใช่สายตาเห็น แต่เป็นการนึกเห็น เหมือนกับเรานึกถึงหน้าคนอื่น นึกถึงสถานที่ หรือสิ่งต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคย จะเรียกว่าเห็นก็ไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้ใช้สายตา แต่ความรู้สึกนั้นชัดเจนอยู่ในห้วงนึกของเรา หายใจเข้า..ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ภาพพระไหลตามลมหายใจออกมา หายใจเข้า..ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ภาพพระเลื่อนไปอยู่บนศีรษะ หรือจะหายใจเข้า..ให้ภาพพระเล็กลง..เล็กลงไปอยู่ในท้อง หายใจออก..ให้ภาพพระใหญ่ขึ้น..ใหญ่ขึ้นไปอยู่บนศีรษะก็ได้ หรือจะหายใจเข้า..ให้ภาพพระใหญ่ขึ้น..ใหญ่ขึ้นจนครอบตัวเราเอาไว้ หายใจออก..ให้ภาพพระเล็กลง..เล็กลงไปอยู่บนศีรษะก็ได้

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน ที่สำคัญก็คือ ให้กำหนดภาพพระพร้อมกับลมหายใจเข้าออกเอาไว้ และต้องไม่เผลอไปใช้สายตากำหนดภาพ หายใจเข้า..ภาพพระเลื่อนลงไปอยู่ในท้อง หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปอยู่บนศีรษะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา