ดูแบบคำตอบเดียว
  #189  
เก่า 14-09-2018, 20:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,097
ได้รับอนุโมทนา 4,401,179 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถ้ากล้าในการภาวนาก็ตัวอย่างในอรรถกถามหาสติปัฏฐานสูตร พระภิกษุ ๓๐ รูปไปปฏิบัติธรรมในป่า ปรากฏว่ามีเสืออยู่ตัวหนึ่ง สองสามวันก็มาลากพระไปกินรูปหนึ่ง ท่านก็เลยทำสัญญาต่อกันว่า ถ้าเสือมาทางไหน ก็ให้เพื่อนพระด้านนั้นส่งเสียงร้องขึ้น เพื่อนท่านอื่นจะได้ไปช่วย

พอเสือคาบพระรูปถัดไป ท่านเห็นว่าเพื่อน ๆ กำลังปฏิบัติภาวนาอยู่ ถ้าเราร้องขึ้นมาเพื่อนจะเสียสมาธิ เสียการปฏิบัติ ก็เลยไม่ร้อง ปล่อยให้เสือคาบไปกิน ในอรรถกถาบอกว่า เสือกินขึ้นมาถึงหัวเข่า ก็สามารถพิจารณาเวทนา ตัดอารมณ์ใจตัวเองเป็นพระโสดาบันได้ พอกินขึ้นมาถึงสะโพก ก็ตัดอารมณ์ใจเป็นพระอนาคามีได้ พอกินขึ้นมาถึงท้องก็เป็นพระอรหันต์พร้อมกับมรณภาพไปเลย ลักษณะนั้นเขาเรียกว่า “สมสีสี” สำเร็จพระอรหันต์พร้อมกับสิ้นชีวิต

ฉะนั้น...วิสารโท กล้าในการให้ทาน กล้าในการรักษาศีล กล้าในการภาวนา กล้าที่จะเอาชีวิตเข้าแลก ขนาดเสือกินยังไม่ยอมร้อง แบบเดียวกับที่บ้านเราสมัยก่อน พรานไปเจอพระธุดงค์โดนงูใหญ่กลืน กลืนไปจะถึงเอวแล้ว พรานก็ปรึกษากันว่า เดี๋ยวเราลับมีดให้คมกริบแล้วกรีดงู ถ้าหนังงูขาดก็จะไม่มีกำลังในการรัดใคร ปรากฏว่าพระธุดงค์ที่นิ่งเหมือนตาย ท่านโบกมือห้ามพราน บอกว่าอย่าทำ ท่านมีกรรมต่อกันมา ปล่อยให้งูกินไปจะได้หมดเวรหมดกรรม นั่นคือกล้าที่จะเอาชีวิตเข้าแลกกับธรรมะ ให้สิ้นเวรสิ้นกรรมกันไป ตนเองจะได้ไปภพภูมิที่ตนเองต้องการ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2018 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา