พระอาจารย์กล่าวว่า "พระของหลวงพ่อโหน่งต้องบอกว่าเอาอานุภาพอย่างเดียว เพราะท่านทำด้วยดินท้องนา ถึงเวลาเผากันทีเป็นลำเรือ ๆ สมัยนั้นใครขอก็ขนไปเลย กว่าเขาจะรู้ว่าของดีก็หมดไปแล้ว"
ถาม : หลวงปู่จีน เป็นอาจารย์ของหลวงปู่ยิ้มอีกทีใช่ไหมครับ ?
ตอบ : องค์เดียวกัน หลวงปู่พระครูพรหมวิหารคุณนั่นแหละ
ถาม : พระครูพรหมวิหารคุณนะครับ ?
ตอบ : องค์เดียวกัน ท่านยิ้มทั้งวันเขาเลยเรียกว่า หลวงปู่ยิ้ม คราวนี้ท่านเป็นลูกจีน บางคนก็เรียกหลวงปู่เจ๊ก หลวงปู่จีน อย่าลืมนะว่าสมัยนั้นขึ้นเป็นพระครูได้นี่เกียรติคุณต้องดังระเบิดเลย หลวงปู่ปานกว่าจะเป็นพระครูได้เล่นเอาอายุเกือบเกษียณแล้ว หลวงปู่จงท่านอยู่มาเป็นหลวงตาธรรมดา ๆ จนกระทั่งมรณภาพไม่ได้เป็นอะไรเลย เพราะท่านไม่เอายศไม่เอาตำแหน่ง ท่านช่วยเขาไปเรื่อย
หลวงปู่จงออกจากวัดไป บางทีครึ่งปีไม่ได้กลับวัด ด้วยความมักง่ายของคน พอเจอท่านในงานก็ “บ้านดิฉันอยู่ไม่ไกลค่ะ นิมนต์หลวงพ่อด้วย” ต่อไปเรื่อย ๆ ท่านก็ไปกับเขาเรื่อย ลูกศิษย์ต้องเอาเกวียนไปตามกลับ บางทีข้ามไป ๔ - ๕ จังหวัด ครึ่งปีไม่ได้กลับหรอก จากตรงนั้นไปไม่ไกล แต่จากวัดท่านไกล นิมนต์กันต่อไปเรื่อย ท่านเองก็เมตตาเขาเหลือเกิน นิมนต์ก็ไปสงเคราะห์เขาทั่วไปหมด
หลวงปู่จงท่านอายุยืนจริง ๆ รุ่นราวคราวเดียวกับหลวงปู่ปาน แต่หลวงปู่ปานมรณภาพแล้ว หลวงปู่จงอยู่มาอีก ๓๐ กว่าปี หลวงปู่จงมามรณภาพตอนอาตมาจะเข้าชั้นป.๑ อยู่แล้ว มรณภาพปี ๒๕๐๘ สมัยอาตมานี่เขาเข้าเรียนกัน ๘ ขวบ
งานประจำปีวัดบางนมโค เขาเอารูปปั้นหลวงปู่ปานมาตั้งไว้ แล้วก็มีตู้รับบริจาค หลวงปู่จงนั่งลงนะหน้าทอง เป่ากระหม่อมให้เขาอยู่ตรงนั้น ๙ วัน ๙ คืน ผ่านไปนับเงินได้ ๘,๐๐๐ บาท เปิดตู้หลวงปู่ปานนับเงินได้ ๘,๐๐๐ บาท หลวงปู่จงบอกว่า “เสียท่าท่านปาน นั่งเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรได้ ๘,๐๐๐ บาท เราเป่าหัวคนจนจะเป็นลมได้ ๘,๐๐๐ บาท” แต่นึกถึง ๘,๐๐๐ บาทสมัยนั้น สร้างโบสถ์สวย ๆ ยังแค่ ๕,๐๐๐ บาทเท่านั้น ๘,๐๐๐ บาทเทียบกับรายรับสมัยนี้ก็หลายล้านบาท.."
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2014 เมื่อ 02:51
|