ดูแบบคำตอบเดียว
  #26  
เก่า 09-06-2015, 12:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของวัตถุมงคล เจตนาอันดับแรก ก็คือ เป็นเครื่องระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ไม่ว่าจะเป็นคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็ตาม ลำดับที่สอง ก็คือ สร้างศีลและการภาวนาให้เกิดแก่เรา เพราะว่าการที่เราจะใช้วัตถุมงคลให้ได้ผล ถ้าตัวเรายิ่งมีศีลบริสุทธิ์เท่าไร ก็จะได้รับผลมากขึ้นเท่านั้น และขณะเดียวกันก็มีคำภาวนาที่เป็นคำอาราธนาหรือการปลุกวัตถุมงคลทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งก็คือการภาวนา ส่วนผลอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่แล้วต้องเรียกว่าเป็นผลพลอยได้เท่านั้น แต่พวกเรามักจะลืมว่าเจตนาในการที่เราสร้างวัตถุมงคลขึ้นมานั้นคืออะไร แล้วก็ไปสนใจแต่ผลพลอยได้ซึ่งเป็นส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

การใช้วัตถุมงคลให้ได้ผลนั้น นอกจากศีลต้องบริสุทธิ์แล้ว อารมณ์ใจยังต้องทรงตัวตั้งมั่นด้วย ยิ่งมีความศรัทธาแน่นแฟ้น กำลังใจทรงตัวตั้งมั่นมากเท่าไร อานุภาพวัตถุมงคลก็จะเกิดขึ้นมากเท่านั้น แต่พวกเราทั้งหลายมักจะเกิดความลังเล ขณะเดียวกันก็ขี้สงสัย อาจจะมีการรื้อตะกรุดดูอย่างที่กล่าวมา ถ้าหากถึงขนาดรื้อดู เพื่อที่จะศึกษาและทำตามก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหากรื้อดูด้วยความลังเลสงสัยว่าใช่หรือไม่ใช่ ? จริงหรือปลอม ? ท้ายที่สุดต่อให้อานุภาพของวัตถุมงคลยังมีเหมือนเดิม แต่กำลังใจของเราอาจจะไม่เหมือนเดิม ก็เท่ากับว่าเราเองทำให้วัตถุมงคลนั้นเสื่อมเอง ก็คือใจเราไม่ได้เคารพนับถือแน่นแฟ้นเหมือนเดิมแล้ว

ฉะนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วก็คือ พวกเรายังขาดศรัทธาที่มั่นคง ศาสนาทุกศาสนาเกิดขึ้นจากศรัทธา ถ้าศรัทธาไม่มั่นคง โอกาสที่จะก้าวเข้าไปสู่หลักธรรมชั้นสูงก็เป็นไปได้ยาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 13:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา