ถาม : อยากทราบความแตกต่างของอุปสมานุสติ ผลสมาบัติ และอากาสานัญจายตนะ ?
ตอบ : ต่างกันคนละโลกเลย อุปสมานุสติจริง ๆ แล้วเป็นสมถกรรมฐาน แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสามารถทำเป็นวิปัสสนากรรมฐานได้ ก็คือให้เราพิจารณาร่างกายจนเกิดความเบื่อหน่าย ไม่ต้องการ แล้วเอาสภาพจิตของเราเกาะพระนิพพาน
ส่วนในเรื่องของผลสมาบัติ เป็นฌานสมาบัติทั่ว ๆ ไป อย่างเช่นฌาน ๑-๒-๓-๔ เพียงแต่ว่าผู้ที่เข้าถึงฌานนี้ต้องได้มรรคผลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ในเมื่อได้มรรคผลนั้นแล้วจึงได้เรียกเป็นผลสมาบัติ ไม่อย่างนั้นก็เป็นสมาบัติธรรมดา
ส่วนอากาสานัญจายตนฌานนั้นเป็นการที่เราปล่อยวางรูป ไปยึดความว่างของอากาศแทน เพราะเห็นว่าโทษทั้งหลายเกิดจากรูป อากาสานัญจายตนญาณทำได้เต็มที่กำลังเท่ากับฌาน ๔ แต่การที่เห็นทุกข์เห็นโทษจากรูปนี่คล้าย ๆ กับวิปัสสนาญาณ เพียงแต่ว่ายังยึดในส่วนของฌานสมาบัติมากไป เลยไม่ใช่วิปัสสนาญาณ ต่างกันแค่นี้เอง
ถาม : ขั้นตอนของการไปสู่อารมณ์นั้น ?
ตอบ : ขั้นตอนของการไปสู่อารมณ์นั้น ผลสมาบัตินี่ถือว่า “ได้แล้ว” ถ้าอุปสมานุสตินี่เราต้องค่อย ๆ ทำไป บวกกับลมหายใจเข้าออก ถึงจะเป็นฌานสมาบัติได้
ส่วนของอากาสานัญจายตนฌานนั้น ถึงคุณจะไม่ได้อรูปฌานตัวนี้ แต่ต้องได้ฌาน ๔ แล้วจึงจะทำได้ ก็แปลว่า ผลสมาบัติกับอากาสานัญจายตนฌาน มีต้นทุนของตัวเองแล้ว แต่อุปสมานุสตินี่ต้องสร้างต้นทุนให้เกิดก่อน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2017 เมื่อ 02:44
|