ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 28-08-2009, 17:51
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

เอาเป็นว่า นิพพานัง ปรมัง สุขขัง ที่ท่านบอก “นิพพานเป็นสุขจริงหนอ” เราจะอยู่ใน “ปรมัง สุขขัง” ตรงนั้นแหละ... นิพพานก็เข้าถึงด้วยใจแล้ว พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็เคารพ ศีลก็บริสุทธิ์ ร่างกายก็เบื่อแล้ว เอ้า ! ก็ทำงานไปด้วยอารมณ์อย่างนี้ นี่คือกระแสพระนิพพาน ภาษาที่แยกขั้นตอน เขาเรียก “กระแสพระโสดาบัน” .. อารมณ์พระโสดาบัน เขาเอากันแค่นี้

ถ้าไปเรียก 'พระโสดาบัน' "หู!...พระโสดาบันเกิดอีกตั้ง ๗ ชาติ" อาจจะฟุ้งอีก ถ้าคนเข้ากระแสพระนิพพานไม่ตัดอยู่แล้วใช่ไหม? บางคนก็จับไฟยาวตั้งกิโล ไฟแสนโวลต์นี่ ไปจับกระแสตอนปลายก็ตาย ตอนต้นก็ตายใช่ไหม? เปิดไฟดวงสุดท้ายก็สว่าง ดวงแรกก็สว่างเหมือนกัน ก็เปิดมันตรงกระแสไฟนี่แหละ! เหมาะกับเราเท่าไร... เราก็เปิดมันตรงนั้นแหละ !

ตอนแรกต้องหลอกมันก่อนเพื่อว่า จิตมันจะได้ยอมจับกระแสพระนิพพานง่าย ๆ ถ้าบอกว่า"วันนี้ตายแน่ไม่เหลืออะไร" โห...มันตกใจ "เมียก็สวยผัวก็หล่อ เงินก็ยังมี ลูกก็ยังเรียนไม่จบ ตายได้อย่างไรกัน!!?" มันค้านเลยใช่ไหมลูก ต้องเอา ๑๐๐ ปีล่อมันก่อน จนใจมันยอมรับเหตุผลอย่างนี้ ค่อย ๆ เลื่อนขึ้น จาก ๑๐๐ ปีมันก็เหลือ... อีกหน่อยมันก็ลด

ติ๋งต่างว่ามันมาพรุ่งนี้แล้ว เราพร้อมไหม? "เอ้า! พร้อมสิ ใจก็ไม่เอา ร่างกายยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ศีลก็บริสุทธิ์ ร่างกายก็ไม่เห็นประโยชน์ ..จะอยู่ทำไม !! อยู่ทำไมอีก? ถ้ามีโอกาสได้พัก.. ก็พัก แล้วไปอยู่กับพระพุทธเจ้าแล้ว"

(มีต่อค่ะ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 28-08-2009 เมื่อ 17:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา