ประการที่สอง คือ ดัดแปลงของเขาที่ดีไม่พอให้เป็นของที่ดียิ่งขึ้น อย่างเช่นว่าบรรดานักบวชสมัยโบราณนั้น ต่างพากันบูชาไฟ องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสว่า การบูชาไฟนั้นเป็นของดี แต่ไฟภายนอกนั้น ไม่สามารถช่วยให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ได้
ต้องบูชาไฟภายในและพยายามดับให้ได้เท่านั้น จึงสามารถที่จะก้าวล่วงจากกองทุกข์ เข้าสู่แดนเกษมคือพระนิพพานได้
แล้วพระองค์ท่านก็ตรัสว่า “ราคัคคิ” ไฟคือราคะ “โทสัคคิ” ไฟคือโทสะ “โมหัคคิ” ไฟคือโมหะ ก็คือ รัก โลภ โกรธ หลง นั้น เป็นไฟที่เผาผลาญเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากว่าเราจะบูชาไฟภายใน ก็คือการที่พยายามที่จะดับไฟนั้นลง ไม่เหมือนอย่างกับการบูชาไฟภายนอก ที่จะต้องพยายามก่อไฟให้เกิดขึ้น การที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดัดแปลงเอาสิ่งที่คนอื่นเขามีอยู่แล้ว แต่ยังไม่ดีพอ ให้มาเป็นสิ่งที่ดียิ่งขึ้น คนก็เห็นด้วยโดยง่าย และปฏิบัติตามได้ง่าย
|