แล้ววางกำลังใจคอยทบทวนดูว่า ศีลทุกสิกขาบทของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? ถ้ายังขาดตกบกพร่อง ก็พยายามทำให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้าสมบูรณ์บริบูรณ์ดีอยู่แล้วก็รักษาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้าหากว่าเราทำอย่างนี้สลับกันไปสลับกันมา ศีล สมาธิ ปัญญา ก็จะเกาะเกี่ยวเป็นอย่างเดียวกัน คือ ศีลสร้างสมาธิ สมาธิสร้างปัญญา ปัญญาคอยควบคุมศีล เหมือนกับฟั่นเชือกโดยอาศัยเชือก ๓ เส้น ฟั่นเป็นเชือกเส้นใหญ่เส้นเดียว
เมื่อเป็นเช่นนั้นสภาพจิตที่ผ่องใสขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนิวรณ์กินใจเราไม่ได้ ถ้าหากว่าสามารถยืนระยะได้ยาวนาน นิวรณ์ทั้งหลายถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง นิโรธ คือ ความดับจากกิเลสทั้งปวงก็จะปรากฏขึ้นแก่เราเอง
อันดับต่อไปให้ทุกท่านภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญานบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๐
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-01-2017 เมื่อ 15:06
|