เกิดมาก็มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ เกิดขึ้นในเบื้องต้น แปรปรวนในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ระหว่างที่ดำรงชีวิตอยู่ก็เต็มไปด้วยความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ของการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย การพลัดพรากจากของรักของชอบใจ การประสบสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบใจ การปรารถนาที่ไม่สมหวัง มีแต่ความทุกข์ทั้งนั้น ตั้งแต่ลืมตาขึ้นจนหลับตาลงไปมีแต่ความทุกข์ แล้วท้ายสุดก็ยังไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายว่าเป็นเราเป็นของเราได้
เพราะว่าโดยปกติแล้ว ร่างกายนี้ก่อขึ้นมาจากสมบัติของโลก คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม เราอาศัยอยู่ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว ตามบุญตามกรรมที่สร้างเอาไว้ เมื่อถึงเวลาก็เสื่อมสลายตายพังไปตามสภาพ กลายเป็นธาตุ ๔ คืนสู่โลกไปตามเดิม
ให้พิจารณาจนกระทั่งเห็นจริง เห็นอย่างชัดเจน ถึงจะเรียกได้ว่าเรามีการศึกษา ศึกษาแล้วก็ต้องน้อมนำเอาไปปฏิบัติให้เกิดผล เกิดผลแล้วก็ยังมีความเมตตากรุณา ที่จะบอกกล่าวสั่งสอนบุคคลอื่นให้รู้ตามไปด้วย เช่นนี้ถึงจะเรียกว่า เป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยการศึกษา หรือว่าสมบูรณ์ด้วยไตรสิกขาอย่างแท้จริง
ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย น้องผักชี)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2019 เมื่อ 19:05
|