ถ้าเกิดขึ้นครบถ้วนสมบูรณ์ ก็ให้ท่านทั้งหลายประคับประคองกำลังใจให้มีความละเอียดยิ่ง ๆ ขึ้น เพื่อที่จะได้มีกำลังพิจารณาตัดกิเลสในระดับของพระโสดาบันหรือพระสกทาคามี ถ้ารู้สึกว่าลมหายใจเบาลงหรือว่าหายไป คำภาวนาหายไป ให้รู้ว่าขณะนี้ท่านกำลังก้าวเข้าสู่ฌานที่สอง
ถ้ารู้สึกเหมือนอย่างกับตัวแข็งกลายเป็นหิน หรือรู้สึกเหมือนโดนมัดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า กระดิกกระเดี้ยไม่ได้ ไม่รับรู้อาการต่าง ๆ ภายนอก ให้รับรู้ว่าท่านกำลังเข้าสู่ฌานที่สามแล้ว ถ้าหากว่ามีสภาพความสว่างโพลงเยือกเย็นอยู่ภายในอกก็ดี ตรงหน้าของเราก็ดี สภาพจิตปักมั่นไม่คลอนแคลนไปไหน ลมหายใจไม่มี คำภาวนาไม่มี นอกจากความสุขสว่างไสวเยือกเย็นเฉพาะหน้าของตน ไม่รับรู้อาการใด ๆ ภายนอก ขอให้ทราบว่าท่านได้ก้าวเข้าถึงฌานที่สี่ มีกำลังในการตัดกิเลสระดับพระอนาคามีและพระอรหันต์
เพราะฉะนั้น..การภาวนาของท่านจึงควรที่จะทบทวนขั้นตอนเหล่านี้ให้รู้เอาไว้ ถึงเวลาจะได้ทราบว่าขณะนี้ตนเองก้าวเข้าสู่สมาธิขั้นไหน แล้วจะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้ตามที่ต้องการ
ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยรัตนาวุธ)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-05-2015 เมื่อ 03:04
|