"ที่วัดท่าขนุนไม่มีแบบนี้ เพราะว่าทันทีที่อาตมาเป็นเจ้าอาวาส ก็เรียกประชุมไวยาวัจกรและกรรมการวัดเก่าทั้งหมด ประกาศอย่างชัดเจนว่า "โดยกฎหมายแล้ว พอเจ้าอาวาสเก่าพ้นตำแหน่ง พวกคุณก็พ้นไปด้วยทั้งหมด แต่อาตมาจะแต่งตั้งให้ใหม่" แล้วอาตมาก็ออกตราตั้งทับตำแหน่งเดิมให้ทั้งหมด เรียกประชุมปีละ ๒ ครั้งตามปกติ
กรรมการเก่าวัดท่าขนุนมีอยู่ ๗๒ ราย เรียกประชุมเมื่อไรก็มีมาประมาณ ๓๐ ราย อีก ๔๐ กว่ารายไม่เคยมา พอผ่านไป ๓ ปี อาตมาประกาศว่า ต่อไปถ้าใครไม่มาประชุม จะถอดออกจากการเป็นกรรมการวัด เขาคงคิดว่าไม่เคยมีการปฏิบัติในลักษณะนี้ ก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม
พอหลังการประชุมครั้งล่าสุด อาตมาออกคำสั่งเจ้าอาวาส ปลดคณะกรรมการเก่าที่ตั้งไว้หมดเกลี้ยงทั้ง ๗๒ คน แล้วแต่งตั้งใหม่เฉพาะคนที่มาประชุมเท่านั้น ฝากเขาไปบอกว่า "พวกที่โดนปลด ถ้าหากว่าสงสัยว่าทำไมโดนปลด ให้บอกไปว่า "ถ้าไม่มีเวลาให้วัด มึงก็ไม่ต้องมาเป็นกรรมการ"
พอโดนไปอย่างนั้นก็เข็ดไปตาม ๆ กัน เรียกประชุมครั้งต่อไป ทั้ง ๆ ที่เขาโดนปลดไปแล้ว ยังทะลึ่งมาประชุม ถามว่าแล้วจะมาทำอะไร ?
ปัจจุบันนี้เวลาเรียกประชุม มีจำนวนเกินคณะกรรมการไปเยอะ แต่อาตมาไม่แต่งตั้งใหม่ ปล่อยไปอย่างนั้น อยากมาก็เรื่องของเอ็ง ไม่มาก็เรื่องของเอ็ง เพราะว่าก่อนหน้านี้ให้เวลามาเยอะมากแล้ว
ถ้าหากว่าเจ้าอาวาสไม่เด็ดขาด ส่วนใหญ่แล้วพวกกรรมการหรือไวยาวัจกรก็มักจะขี่คอพระ คิดว่าจะทำอย่างไรก็ได้ แต่พอโดนปลดออก ระดับการเมืองท้องถิ่นจะรู้สึกเสียหน้า จะพยายามดิ้นรนหาทางกลับเข้ามาเป็นใหม่ "ขอโทษ..ไม่แต่งตั้งว่ะ..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:55
|