ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 01-10-2015, 11:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,677 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในระยะปัจจุบันของเราทั้งหลาย ต้องบอกว่าเศรษฐกิจอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างจะฝืดเคือง รัฐบาลไม่ยอมใช้คำว่า "เงินฝืด" แต่ใช้คำว่า "เงินเฟ้อติดลบ" ซึ่งก็เป็นความหมายเดียวกันนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็น "ประชาชนผู้มีรายได้น้อย" หรือว่า "รากหญ้า" ก็คำเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น "ประชานิยม" หรือ "ประชารัฐ" ก็คำเดียวกัน เสียเวลาไปเปลี่ยนคำเปล่า ๆ สู้เอาเวลาไปบริหารเศรษฐกิจให้ดีขึ้นไม่ได้ อาตมาพูดอย่างนี้อาจจะโดนปรับทัศนคติก็ได้ แต่คาดว่าท่านนายกฯ คงไม่นิมนต์อาตมาไปปรับทัศนคติหรอก เพราะถ้าขืนนิมนต์ไป เดี๋ยวท่านนายกฯ อาจจะโดนปรับแทน..!

ที่กล่าวมาตรงจุดนี้ต้องการจะบอกว่า ในระยะหลังญาติโยมจำนวนหนึ่ง ที่เอาพระคาถาเงินล้านของหลวงพ่อวัดท่าซุงไปภาวนาเป็นกรรมฐาน ต่างก็ได้ผล มีความคล่องตัวในการทำมาหากินและความเป็นอยู่มากขึ้น ฉะนั้น...ในส่วนทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าญาติโยมนำไปประพฤติปฏิบัติบ้าง ก็จะเกิดคุณความดีแก่เราโดยส่วนเดียว เพราะว่าเราได้เจริญกรรมฐานด้วย ขณะเดียวกัน ผลพิเศษในการเจริญกรรมฐาน ก็คือความคล่องตัวในความเป็นอยู่ ตลอดจนกระทั่งทรัพย์สินเงินทองก็จะไหลมาเทมา

ถ้าญาติโยมทั้งหลายยังสงสัยให้ไปดูที่วัดท่าขนุนได้ อาตมาสร้างศาลาใหญ่ ๒ ปีเสร็จ ใช้งบประมาณไป ๘๑ ล้านกว่าบาท ถ้าโยมสงสัยว่าเอาเงินมาจากไหน ขอยืนยันว่ามาจากพระคาถาเงินล้านอย่างเดียว อาตมาภาวนาไม่มากหรอก ในแต่ละวันคิดถึงเมื่อไรก็ภาวนาเมื่อนั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2015 เมื่อ 17:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา