ตอนสามเณรกองแก้ว อาวุโสสูงเป็น "หลวงปู่ครูบาธรรมชัย" ท่านได้กล่าวกับศิษย์ใกล้ชิดว่า
"ธรรมชาติของเสือเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นภักษาหาร เมื่อมันเจอสัตว์หรือมนุษย์ก็ตาม ธรรมชาติจะบงการให้มันโจนทะยานเข้าตะปบกินทันที เพราะสัตว์และมนุษย์คือเหยื่อของมัน เหมือนนกเจอหนอนแมลง นกก็จับกินเป็นอาหาร เพราะเป็นกติกาของธรรมชาติสัตว์ใหญ่ต้องกินสัตว์เล็ก"
สาเหตุที่เสือไม่จับพระธุดงค์กินเป็นภักษาหาร หลวงปู่ครูบาธรรมชัย ชี้แจงว่า มีด้วยเหตุ ๓ ประการ
๑. เทพยดาผู้มีหน้าที่อารักษ์อยู่ในป่าเขาลำเนาไพร บันดาลดลใจให้เสือร้ายเข้ามาทดสอบกำลังจิตของพระธุดงค์ คอยควบคุมไม่ได้เกิดการทำร้ายแม้แต่เท่ารอยแมวข่วน
๒. เทพยดาเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ เทพยดาจึงนิรมิตอัตภาพร่างกาย จำแลงเป็นเสือร้ายมาทดสอบกำลังใจของพระธุดงค์ และไม่ใช่จำแลงแปลงกายเป็นเสือได้อย่างเดียว จะจำแลงเป็นภูติผีปิศาจอันน่าสะพรึงกลัวมาให้เห็นก็ได้ ทดสอบว่าพระธุดงค์ยังมีความสะดุ้งกลัวต่อสิ่งลี้ลับหรือไม่ หากยังเสียวสะดุ้งตกใจแสดงว่ายังห่างไกลต่อการบรรลุธรรมชั้นสูงประการใดประการหนึ่ง หรือยังเป็นผู้ไม่บรรลุธรรมใด ๆ เลย
๓. เสือจริงที่กินเนื้อเป็นภักษาหาร คือเป็นเสือจริง ๆ ตามธรรมชาติที่มีอยู่ในป่า เมื่อเจอพระธุดงค์เท่ากับเจออาหารเดินไปมา จึงต้องจับกินเป็นอาหาร เทพยดาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้เป็นผู้ดลใจเสือ แต่เมื่อเสือเดินเข้ามาใกล้รัศมีพลังจิตของพระธุดงค์ผู้เจริญธรรมสมาธิจนแก่กล้า เกิดเป็นกระแสแห่งเมตตาแผ่ออกไปเองจากร่างพระธุดงค์ กระแสนี้ทรงอำนาจประหลาดล้ำสามารถแผ่เข้าไปถึงจิตที่อยู่ภายในกายของเสือ เสือร้ายจะคลายความกระหายเลือด รู้สึกเป็นมิตรต่อกันกับพระธุดงค์
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 12-01-2010 เมื่อ 18:56
|