เพราะฉะนั้น...ถ้าท่านยังไม่พร้อมในการที่จะเดินทางไกล ไม่พร้อมที่จะดิ้นรนถอนตนให้หลุดพ้น ก็ต้องเร่งสั่งสมคุณความดีให้มากไว้ หลักใหญ่ ๆ ก็คือ ศีล สมาธิ และปัญญา เราต้องระมัดระวังชำระศีลทุกสิกขาบทของเราให้สมบูรณ์บริบูรณ์ ไม่ล่วงศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นล่วงศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นล่วงศีล
สมาธินั้น อย่างน้อยเราต้องปฏิบัติภาวนาให้ทรงถึงระดับปฐมฌานละเอียด จะได้มีกำลังเพียงพอในการตัดกิเลส ถ้ายังทำไม่ถึงปฐมฌานละเอียด เราก็มีกำลังไม่พอในการตัดกิเลส ก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบกันต่อไป และท้ายที่สุดการใช้ปัญญานั้น ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก แค่มีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย ตายเมื่อไรเราขอไปอยู่ที่พระนิพพานที่เดียว
ถ้ากำลังใจสุดท้ายของเราเกาะตรงจุดนี้ได้ ก็แปลว่าท่านมีสุคติเป็นที่หวัง หรือถ้ามากกว่านั้นก็อาจจะล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้เลย ดังนั้น..ในบรรยากาศที่ทุกคนหวาดกลัวเชื้อไวรัส COVID-๑๙ ก็ขอให้รู้ว่าจริง ๆ แล้วก็คือเรากลัวตาย เมื่อเรากลัวตายก็ต้องดิ้นรนขวนขวายให้พ้นจากการตายการเกิด ก็คือพยายามหาทางหลุดพ้นไปสู่พระนิพพาน ด้วยกฎเกณฑ์กติกาดังที่กล่าวมาแล้ว
ลำดับต่อไปก็ขอให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านบ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๓
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2020 เมื่อ 02:07
|