ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 23-07-2016, 16:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,626 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙

ให้ทุกคนขยับนั่งในท่าที่ตัวเองสบาย ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะจับการกระทบของลมฐานเดียวก็ได้ สามฐานก็ได้ เจ็ดฐานก็ได้ แล้วแต่ความชำนาญของตน จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เราเคยทำมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ที่อยากจะเตือนในวันนี้ ก็คือ การปฏิบัติกรรมฐานของเรานั้น ต้องเป็นไปเพื่อการละกิเลส โดยมีเป้าหมายก็คือการหมดกิเลสเข้าสู่พระนิพพานเท่านั้น ส่วนอื่น ๆ เป็นส่วนเกินทั้งสิ้น โดยเฉพาะการรู้เห็นต่าง ๆ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วมักจะพาให้เสีย

เนื่องจากว่าอารมณ์ในการรู้เห็นนั้นมีอยู่ ๒ ระยะ ก็คือในระยะของอุปจารสมาธิกับในระยะของฌาน ๔ ละเอียด ในระยะของอุปจารสมาธินั้น เปรียบเหมือนว่าเราอยู่ในบ้านที่มี ๒ ชั้น ชั้นบนกับชั้นล่าง มีความกว้างยาวและวัสดุตกแต่งเหมือนกันหมดทุกอย่าง อุปจารสมาธิก็คือบ้านชั้นล่าง ส่วนฌาน ๔ ก็คือบ้านชั้นบน เมื่อเราเข้าไปถึง มีสิ่งใดอยู่เราก็สามารถรู้เห็นในสิ่งนั้นได้ แต่ถ้าอยู่ในระหว่างของการขึ้นบันไดจากชั้นหนึ่งไปชั้นสอง ก็คือ อยู่ในระหว่างของฌานที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ เราก็จะไม่รู้เห็นอะไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2016 เมื่อ 18:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา