ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 15-07-2016, 21:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,369 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะจับการกระทบของลมฐานเดียวก็ได้ ๓ ฐานก็ได้ ๗ ฐานก็ได้ หรือว่ารู้ตลอดกองลมก็ได้

ส่วนคำภาวนา เราเคยถนัดอย่างไหนให้ใช้แบบนั้น คำภาวนาไม่ควรที่จะเปลี่ยนบ่อย ๆ เพราะถ้าเปลี่ยนบ่อยใจไปพะวงอยู่กับคำภาวนาใหม่ ความเคยชินของใจส่วนหนึ่งจะดึงไปหาคำภาวนาเก่า ก็จะเกิดอาการดึงกันไปรั้งกันมา บางคนก็ฟุ้งซ่านรำคาญจนไม่สามารถที่จะภาวนาได้เลย

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ช่วงที่ผ่านมาได้ไปบรรยายให้กับนักเรียนของวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาฯ มีผู้ปรารภว่าการรักษาศีลเป็นเรื่องยาก สิ่งที่เขาว่ามานั้นเป็นไปตามกำลังใจ ถ้าคนที่ยังมีบารมีต่ำอยู่ การรักษาศีลก็จะเป็นเรื่องยาก เพราะว่าบารมีต้นพยายามจนเต็มที่แล้วก็รักษาศีลได้อย่างเดียว ไม่สามารถเจริญสมาธิภาวนาได้ ดังนั้น...การรักษาศีล ถ้าต้องการจะทำให้สมบูรณ์บริบูรณ์ ก็ควรที่จะมีทั้งในส่วนของศีลและสมาธิควบคู่กันไป

ในส่วนของศีลนั้น เราต้องเห็นคุณค่าความดีของศีล ว่าเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้เราตกสู่อบายภูมิ คือ บุคคลที่มีศีล ๕ สมบูรณ์บริบูรณ์ อย่างน้อยที่สุดก็จะได้เกิดเป็นมนุษย์ชั้นดี เนื่องจากว่าศีล ๕ มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า มนุสสธรรม ก็คือ ธรรมที่ทำให้เราเกิดเป็นมนุษย์ ป้องกันอบายภูมิ ๔ คือ นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉานได้

แต่ถ้าเรามองตรงนี้ บางท่านก็รู้สึกว่าหนักเกินไป ก็ดูคุณของศีลในลักษณะเบา ๆ อย่างเช่นว่า เราเองก็ไม่ปรารถนาให้ผู้ใดมาฆ่าเรา เราก็ไม่ควรที่จะฆ่าใคร เราไม่ปรารถนาให้ผู้ใดมาลักขโมยของของเรา เราก็ไม่ควรที่จะไปลักขโมยของของใคร เราไม่ปรารถนาให้ผู้ใดมาแย่งชิงของที่เรารัก คนที่เรารัก เราก็ไม่ควรที่จะไปแย่งชิงของรัก หรือคนรักของคนอื่น เราอยากจะฟังแต่เรื่องที่จริง เรื่องที่เป็นความสัตย์ เราก็ไม่ควรที่จะโกหกหลอกลวงใคร เราอยากมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์บริบูรณ์ ควรที่จะงดเว้นจากสุราเมรัย และยาเสพติดทั้งปวง เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2016 เมื่อ 14:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา