ดูแบบคำตอบเดียว
  #194  
เก่า 26-12-2017, 23:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,511
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,945 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ที่กล่าวมายืดยาวนี้ ไม่ได้คิดจะเล่าเรื่องเจ้าอาวาสวัดวังปะโท่เลย จะเล่าว่าวัดวังปะโท่มีควายอยู่ตัวหนึ่ง เป็นควายที่เขาบอกว่ามีลักษณะดีเลิศตามลักษณะของควายที่ดีทั้งหลาย ประมาณว่าหน้าแด่น หางดอกด้วย แต่ขอโทษ...ควายตัวนี้คงรู้ว่าตัวเองหล่อกว่าใคร เพราะฉะนั้น...ใครเข้าใกล้ไม่ได้ แม้แต่อาตมาก็จะโดนขวิด ก็เลยบอกพระครูปลัดปรีชาว่า บริจาคให้ทางบ้านควายไทยที่สุพรรณบุรี หรือไม่ก็ธนาคารโคกระบือของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไปเลย

ท่านบอกว่าไม่มีใครเข้าใกล้ได้ครับ เจ้านี่ยอมให้พระสาเหล่ท่านเดียว พระรูปนี้เป็นพระกะเหรี่ยง อาตมาก็เลยบอกกับควายว่า "ถ้าเอ็งไม่ไป...ก็จะเข้าโรงฆ่าสัตว์" ปรากฏว่าคืนนั้นสะบัดเชือกขาด หนีไปไหนก็ไม่รู้ ? ก็แสดงว่ารู้ภาษาจริง ๆ ไม่รู้ว่าเขาไปตามกลับมาหรือยัง ? เป็นควายที่เขาซื้อเพื่อสะเดาะเคราะห์แล้วเอาไปปล่อยไว้ที่วัด

ตอนแรกอาตมาก็คิดว่าวัดท่าขนุนมีพื้นที่ป่า จะหาควายสักตัวสองตัวมาเลี้ยงไว้ เพราะว่าปัจจุบันนี้ควายไทยหายากแล้ว ควายบ้านเราถ้าไม่ใช่ควายมูร่าห์ของอินเดียก็จะเป็นควายพม่า นึกไปนึกมาแล้วจะหาภาระเพิ่มให้พระโดยใช่เหตุ ก็เลยไม่ได้ซื้อมา

มีอยู่ช่วงหนึ่งก็คิดว่าจะซื้อลูกหมูป่ามาเลี้ยง เผื่อให้ช่วยเก็บเศษอาหาร ปรากฏว่าไปเจอหมูป่าคู่หนึ่ง สองตัวนั้นไม่ใช่หมูแล้ว กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ ? ชื่อแอปเปิ้ลกับองุ่น แต่กินทุกอย่างที่ขวางหน้า หมูป่าน้ำหนักเต็มที่ ถ้าในป่าก็คงไม่เกิน ๑๒๐ กิโลกรัม แต่ ๒ ตัวนั้นน่าจะเกิน ๒๐๐ กิโลกรัมไปแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2017 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา