ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 07-06-2012, 15:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,340 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเรามีศีลบริสุทธิ์ มีสมาธิทรงตัวตั้งมั่น ใช้กำลังสมาธิในการกดกิเลส หรือช่วยในการพิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว เราเห็นสภาพนั้นจริง ๆ ว่าร่างกายของเราก็ดี คนอื่นก็ดี สัตว์อื่นก็ดี มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ การดำรงชีวิตอยู่ทุกลมหายใจเข้าออกมีความทุกข์เป็นปกติ ร่างกายนี้ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา มีเพียงธาตุ ๔ ที่เป็นส่วนประกอบกันขึ้นมาให้เราอาศัยอยู่ชั่วคราว เราเห็นดังนี้แล้วเรายอมรับความจริงนี้หรือไม่ ?

ถ้าหากเราสามารถยอมรับความจริงทั้งหลายเหล่านี้ได้ เราก็จะไม่ปรารถนาในการเกิดมามีร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์ มีร่างกายที่เต็มไปด้วยความไม่เที่ยง มีร่างกายที่ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติของเรา เป็นเครื่องมือที่อาศัยอยู่ชั่วคราวตามบุญตามกรรมเท่านั้น

ถ้าเราไม่ปรารถนาในการเกิดมามีร่างกายนี้ ไม่ปรารถนาในการเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากอย่างนี้ เป้าหมายของเราควรจะอยู่ที่ใด ? การเกิดเป็นเทวดาก็ดี เป็นนางฟ้าก็ดี เป็นพรหมก็ดี พ้นทุกข์ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หมดกำลังบุญเมื่อไรก็ต้องลงมาทุกข์อีก ก็แปลว่าเราไม่ควรจะตั้งเป้าไว้ที่เทวดา ที่นางฟ้า หรือที่พรหม มีสถานที่เดียวที่นำพาเราออกไปจากความทุกข์ได้ ล่วงพ้นความทุกข์โดยสิ้นเชิงได้ หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ นั่นคือพระนิพพาน

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เมื่อหลุดพ้นไปอยู่ที่พระนิพพานแล้ว เราเองที่เป็นสาวกของสมเด็จพระประทีปแก้ว ก็ควรที่จะรำลึกนึกถึง ไม่ว่าจะเป็นพระรูปพระโฉมของพระองค์ท่านก็ดี หรือว่ารำลึกถึงพระนิพพานก็ดีให้เป็นปกติ เอากำลังใจจดจ่อแน่วแน่อยู่ที่นั่น ตั้งใจว่าถ้าหากว่าเราหมดอายุขัย หรือตายลงด้วยอุบัติเหตุใด ๆ ก็ตาม เราขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานแห่งเดียว

เมื่อตั้งกำลังใจดังนี้แล้ว ให้ทุกคนนึกถึงลมหายใจเข้าออกของตนเอง ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ให้กำหนดรู้ลมหายใจของเราไป ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ให้กำหนดรู้คำภาวนาของเราไป ถ้าหากว่าลมหายใจเบาลงหรือคำภาวนาหายไป เราก็กำหนดอยู่ที่ภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยู่ที่ภาพพระนิพพาน หรือว่ากำหนดรู้อาการที่ลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไปนั้นเอาไว้ ให้รักษากำลังใจเช่นนี้เอาไว้จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2012 เมื่อ 18:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 64 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา