ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 11-06-2009, 12:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,909 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมมติว่าตอนนี้เราอยู่ในที่ซุ่ม หลบหน้ากิเลส แต่ว่ามันส่งกองลาดตระเวนมาตามหาเรา ตอนนี้เราหมอบอยู่ข้างทาง กองตระเวนมันเดินเฉียดเราไป ในสภาพอย่างนั้นเราต้องสะกดตัวเองให้นิ่งที่สุด ไม่ให้มีการขยับเคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้อีกข้างหนึ่งรู้ตัว เราจะต้องสะกดตัวเองให้นิ่งอย่างไร ก็เอาสมาธิทั้งหมดจดจ่ออยู่กับลมหายใจให้นิ่ง และแนบแน่นลักษณะอย่างนั้น

วันนี้เราเอาหลักใหญ่ของการปฏิบัติก็คือลมหายใจเข้าออก กรรมฐานทุกกองถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออกควบไปด้วยจะไม่ทรงตัว เพราะฉะนั้น..วางกำลังใจทุ่มเทความรู้สึกทั้งหมดให้อยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้า หายใจเข้ารู้ตามเข้าไป หายใจออกรู้ตามออกมา โดยเฉพาะให้รู้เพิ่มนิดหนึ่งว่า ชีวิตเรามีอยู่แค่ชั่วลมหายใจเข้าออกนี้เท่านั้น หายใจเข้า...ถ้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออก...ถ้าไม่หายใจเข้าไปก็ตายเช่นกัน ชีวิตเป็นของน้อยขนาดนี้ ถ้าเราสั่งสมพลังไม่เพียงพอที่จะดิ้นหลุดออกจากวัฏสงสาร เราก็ต้องมาเวียนตายเวียนเกิดมาทนทุกข์ทรมานอย่างนี้ มาอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อน มาอยู่ในร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง เบื้องปลายสลายไปที่สุด ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้อีกเลย

ดังนั้น..เราต้องสั่งสมพลังงานให้มากที่สุด โดยการฝึกสติรู้ระมัดระวัง รู้ตามลมหายใจเข้าออกไว้ ปิดทวารทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เอาสติระลึกรู้ตามลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว พยายามทำอย่างนี้เพื่อสั่งสมกำลังของเราให้มีมากขึ้น ถ้ากำลังมันไม่รั่วไหล มันมีมากขึ้น เมื่อเราใช้ในการพิจารณาธรรม ก็สามารถที่จะเข้าใจแจ่มแจ้งได้ง่าย ขณะเดียวกันก็จะมีกำลังใจการตัดละก้าวล่วงกิเลสทั้งหลายไปได้ง่ายเช่นกัน

วันนี้นอกจากลมหายใจเข้าออกแล้วจะไม่เอาอะไร ดังนั้น..พวกเรากำหนดความรู้สึกไว้เฉพาะหน้า นึกถึงเรื่องอื่นเมื่อไหร่ดึงมันกลับมา สกัดกั้นมันไว้ ผูกมันไว้ ไม่อย่างนั้นตัวเราเองนั่นแหละจะเป็นคนเปิดประตูให้ข้าศึกเข้ามาโจมตีเรา

ดังนั้น..การที่เราจะยาตัวเองไม่ให้มีรูรั่วจึงต้องยาจากทางด้านใน ระมัดระวังใช้ใจของเรา ความรู้สึกของเรา สติ สมาธิ ปัญญาของเรา ระมัดระวังไม่ให้ลมหายใจเข้าออกมันหลุดไปจากความรู้สึกได้ ระมัดระวังไม่ให้ตาหูจมูกลิ้นกายใจของเราแวบออกไปยังเบื้องนอกได้ พยายามอยู่กับลมหายใจเข้าออกให้ทรงตัว ให้นิ่งให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกว่าจะส่งสัญญาณให้เลิก

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-12-2009 เมื่อ 10:56
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา