ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 31-12-2011, 08:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๐

อบรมพระที่เกาะพระฤๅษี ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๐

คนเราถ้าขาดสติแล้วก็จะไม่มีสตางค์ด้วย อะไรที่เคยทำต้องทำให้ชิน ไม่อย่างนั้น ถ้าหากว่าขาดสติอยู่ก็จะผิดพลาดไปเรื่อย อย่างเรื่องของการใช้น้ำใช้ไฟ เผลอเป็นเปิดทิ้งไว้ ที่วัดไร่ขิง * ถ้ามีอบรม จะมีการเปิดทิ้งทั้งน้ำ ทั้งไฟ ทั้งพัดลม ทั้งเครื่องปรับอากาศ ผมต้องตามปิดให้แทบทุกวัน

ที่วัดไร่ขิงเขาจะมีการอบรมเด็กอยู่เกือบทุกวัน พอเจออย่างนั้นเข้า รู้สึกดีใจเป็นบ้าเลย ที่ไม่มีลูกมีเมียเหมือนคนอื่น ถ้ามีลูกประเภทนี้ผมตีตายเลย..! ไม่ทราบเหมือนกันว่าพ่อแม่เขาอบรมลูกกันอย่างไร

เมื่อวันที่รับสังฆทานต้นเดือน แม่เขาเอาเด็กมา ๒ คน เด็กผู้ชายสัก ๑๐ ขวบ เด็กผู้หญิงราว ๆ ๖ ขวบ เขาบอกว่าลูกเขาดื้อมาก จะทำอย่างไรดี ? อาตมาบอกว่าตีให้ตายไปเลย ปรากฏว่าเขาไม่ใช่คนไทย เขาบอกว่าอยู่ฮ่องกง กฎหมายฮ่องกงตีเด็กไม่ได้หรอก ตีเด็กแล้วทางราชการจะยึดเด็กไปเลี้ยงเอง ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยเด็กเป็นพ่อเป็นแม่ของเขาต่อไปก็แล้วกัน..!

เรื่องของสติสำคัญที่สุด ธรรมะของพระพุทธเจ้าทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ก็ลงตรงคำว่าสตินี่แหละ บางท่านบอกว่า พระพุทธเจ้ารวมธรรมะของท่านทั้งหมดลงในคำว่า “ไม่ประมาท”** อย่าลืมว่าคนไม่ประมาทต้องมีสติถึงจะไม่เผลอ

ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าธรรมะของพระพุทธเจ้า ทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ สำคัญตรงสติ ภาษาบาลีท่านบอกว่า อตีตํ นานุโสจนฺติ***อย่าไปหวนคำนึงถึงอดีต นปฺปชปฺปนฺตินาคตํ แล้วก็อย่าไปฟุ้งซ่านถึงอนาคต ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ รักษากำลังใจให้อยู่กับปัจจุบันนี้เท่านั้น

ตัวรักษากำลังใจให้อยู่กับปัจจุบันนี่แหละ..คือสติล้วน ๆ เลย ทำอย่างไรเราจะหยุดกำลังใจให้อยู่กับปัจจุบันได้ เพราะว่ากำลังใจที่ส่งไปในอดีตหรือส่งไปอนาคต ล้วนแต่สร้างทุกข์ให้กับเราทั้งนั้น ส่งไปในอดีต ถ้าหากว่าไม่ชิงชังรังเกียจ ก็จะไปอาลัยอาวรณ์อยู่กับอดีตนั้น

ส่งไปในอนาคตก็มักจะฟุ้งซ่าน คิดถึงแต่เรื่องที่เกินความเป็นจริงอยู่เสมอ แล้วก็ไม่สามารถที่จะสร้างความพอใจให้กับตนเองได้ จึงกลายเป็นอนิฏฐารมณ์ อารมณ์อันไม่น่าพอใจ เท่ากับเราสร้างทุกข์ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา

หมายเหตุ :

*วัดไร่ขิง เลขที่ ๕๑ หมู่ที่ ๒ ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

**พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐ : พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๒ : ทีฆนิกาย : มหาวรรค : มหาปรินิพพานสูตร

***พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ : พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ : สังยุตตนิกาย : สคาถวรรค : เทวตาสังยุต : นฬวรรค : อรัญญสูตร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 31-12-2011 เมื่อ 17:52
สมาชิก 98 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา