ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 28-08-2009, 09:46
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,825 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default เสียงจากถ้ำฉบับที่ ๑๗ เดือนตุลาคม ๒๕๔๙

กระแสพระนิพพาน

(พระครูภาวนาพิลาศ)


ที่จริงอารมณ์กรรมฐานมีอารมณ์เดียวคือ ต้องเข้ากระแสพระนิพพานให้ได้ "กระแส" นี่หมายความว่า สายไฟแดง ๆ นี่กระแสไฟฟ้ามันยาว... ไม่ต้องไปจับปลายกระแส จับต้นมันก็ช็อตตายแล้ว! หรือว่ามันก็สว่างแล้ว...ให้จับกระแสนิพพานให้ได้

"กระแสนิพพาน" ก็คือรู้ว่าร่างกาย "ตาย!" ไม่มีทางหลีกเลี่ยงไปได้ ถ้าใจยังอ่อนก็บอกว่า อีกไม่เกิน ๑๐๐ ปีเราก็ตายแล้ว! อย่างน้อยก็ต้องคิดให้ได้ให้ใจบอก...ใช่ ให้ใจมันยอมรับด้วยปัญญาเขาเรียก "ประจักษ์ใจ" "ไม่เกิน ๑๐๐ ปีก็ตายแล้ว.. ใครจะอยู่ก็อยู่.. พอตายแล้วเราก็ไม่เกี่ยวกับใครแล้ว..." คิดเบา ๆ ให้ใจมันค่อย ๆ ยอมรับไปก่อน

"ตายแล้วเราก็ไม่ต้องใช้หนี้ใคร ไม่ต้องซ่อมบ้านซ่อมช่อง" ก็ว่าไปตามทุกข์ปัจจุบัน ให้ใจมันคิด อือ...ดีเหมือนกัน "ตายแล้วก็ไม่ต้องกินข้าว...อาหารแพงหรือถูกอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับคนตาย" ค่อย ๆ ล่อมันก่อน.. ไปหักหาญทีเดียวมันไม่ยอมคิด !

"ติ๋งต่างว่า ไอ้ ๑๐๐ ปีมันมาถึงพรุ่งนี้นี่นะ แล้วเราก็ทำความดีจนเป็นพระอรหันต์แล้ว" สมมติอย่างนี้นี่นะ...ล่อมัน "ภาระต่าง ๆ ก็หมดแล้ว" ล่อให้ใจมันสบายก่อนนะ "กิเลสก็ไม่เหลือแล้ว โลกก็ไม่ได้อยากอยู่อะไร พระนิพพานก็ใสแจ๋วอยู่ข้างบนนี่ ถ้าภาวะความตายอย่างนั้นมาถึงวันพรุ่งนี้น่าจะดี... จะได้หมดเรื่องเสียที" ขยับเข้ามาเหลือวันเดียวแล้ว ให้ใจมันสบาย หลอกมันบ้างสิ กิเลสน่ะ! มันหลอกเรามานานแล้วนะ...หลอกมันบ้าง!

(มีต่อค่ะ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 28-08-2009 เมื่อ 19:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 97 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา