ดูแบบคำตอบเดียว
  #67  
เก่า 15-05-2015, 17:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,279 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่างที่ได้ปรารภไปว่าเรียนจบแล้วก็เหมือนกับไม่จบ เพราะว่าต้องมีการทบทวน ต้องมีการนำไปใช้งาน ลักษณะเดียวกับในพระไตรปิฎก ที่กล่าวถึงพระอรหันต์จำนวนมากต่อมากด้วยกัน ถึงเวลาบรรลุมรรคผล จบกิจในพุทธศาสนาแล้ว ก็ยังมีภาระหน้าที่จะต้องทำงานแบบนั้นแบบนี้ เป็นภารธุระในพุทธศาสนาทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่างานส่วนตัวหมดแล้ว จะไปแอบเสวยสุขอยู่ได้คนเดียว เพราะว่าพระระดับนั้น เมื่อทำถึงที่สุดแล้วก็ไม่มีใครอยากอยู่ ต้องบอกว่าอยู่เพื่อเป็นเนติ เป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น อยู่เพื่อสงเคราะห์โลก อยู่เพื่อสงเคราะห์ญาติ อยู่เพื่อสงเคราะห์เพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย

ตัวอย่างพระท่านหนึ่งก็คือพระนาลกะ พระนาลกะบรรลุมรรคผลไล่ ๆ กับพระปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ แต่ไม่มีงานอะไรเลยนอกจากทำตนให้บรรลุมรรคผล ดังนั้น..ท่านก็เลยทูลลาไปพระนิพพาน ต้องบอกว่าเรื่องอย่างนี้ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ อย่างท่านที่ตั้งใจมาเป็นอัครสาวก ตั้งใจมาเป็นมหาสาวก ก็ต้องรับภาระรับหน้าที่ไปตามที่ตั้งใจไว้ ท่านที่มาเพื่อจบกิจอย่างเดียว ไม่มีภาระหน้าที่ ถึงเวลาก็ไปได้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2015 เมื่อ 04:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา