ดูแบบคำตอบเดียว
  #46  
เก่า 02-06-2018, 23:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ภิกษุภิกษุณีเมื่อมีปัจจัย ๔ เป็นเครื่องอาศัย ไม่ต้องเดือดร้อนด้วยการทำมาหากิน ก็ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาและปฏิบัติในพระธรรม เมื่อปฏิบัติได้ผล รู้ว่าทางใดไปง่ายที่สุด ก็จะนำมาบอกกล่าวแก่อุบาสกอุบาสิกา ที่ยุ่งยากด้วยการทำมาหากิน มีเวลาปฏิบัติธรรมได้น้อย เมื่ออุบาสกอุบาสิการู้ทางลัด รู้ทางตรง ก็สามารถที่จะเข้าสู่มรรคเข้าสู่ผลได้เช่นกัน

ดังนั้น ในส่วนของอาคาริกะคือผู้ครองเรือน มีหน้าที่สนับสนุนฝ่ายอนาคาริกะผู้ไม่ครองเรือน ศึกษาได้แล้วนำกลับมาบอกกล่าวต่อ ก็จะอยู่ในลักษณะของการพึ่งพาอาศัยกัน แบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า พระพุทธศาสนาของเราก็จะเจริญมั่นคง

ไม่เช่นนั้นแล้ว ถึงเวลาญาติโยมฟังคำกล่าวตู่ของบุคคลผู้ไม่หวังดี พยายามที่จะทำพระพุทธศาสนาเราให้อ่อนแอที่สุด เพื่อที่ถึงเวลาแล้วศาสนาอื่นจะได้เข้ามายึดครองแทน เราก็ไม่สามารถที่จะโต้แย้งใด ๆ ได้ เพราะว่าไม่ได้ศึกษาอะไรไว้เลย ซึ่งส่วนนี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

การที่ญาติโยมทั้งหลายจะศึกษาก็มี ๒ วิธี

วิธีแรก อ่านพระไตรปิฎกด้วยตนเอง เรื่องนี้อาตมาปลื้มใจมากเมื่อได้ไปเนปาล ประเทศเนปาลขาดพระภิกษุสงฆ์มา ๗๐๐ กว่าปี อาศัยญาติโยมอ่านพระไตรปิฎกเองแล้วปฏิบัติตามคำสอนในพระไตรปิฎกนั้น ๆ รักษาพระพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบัน

จนถึงสมัยสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่​ ๑๙ คือสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ท่านถึงได้ไปบวชให้กับกุลบุตรทางด้านโน้น ฟื้นฟูพระภิกษุสงฆ์กลับคืนมา ซึ่งพระที่ท่านบวชให้รุ่นแรก ๆ คือท่านเจ้าคุณอนิลมานหรือว่าท่านเจ้าคุณพระศากยวงศ์วิสุทธิ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2018 เมื่อ 08:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา