ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 13-04-2011, 11:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,510
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,961 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ต้องบอกว่าเกิดจากกิเลสคน คือแต่ละคนรักชอบไม่เหมือนกัน ถึงเวลาอยากจะสร้างแบบนั้นแบบนี้ก็ไปค้นตำราดู จนกำหนดเป็นพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ขึ้นมา

บางปางในชีวิตเราแทบจะไม่เคยเห็นเสียด้วยซ้ำ อย่างเช่น ปางฉันสมอ จะถือลูกสมออยู่ลูกหนึ่ง ปางเย็บผ้าบังสุกุล ปางเสยพระเกศา ฯลฯ

ส่วนใหญ่พวกเราจะชินแค่ ๙ ปาง ที่เป็นพระประจำวันเกิด ก็คือ วันอาทิตย์ปางถวายเนตร วันจันทร์ปางห้ามญาติ วันอังคารปางไสยาสน์ วันพุธกลางวันปางอุ้มบาตร วันพุธกลางคืนปางป่าเลไลยก์ วันพฤหัสบดีปางสมาธิ วันศุกร์ปางรำพึง วันเสาร์ปางนาคปรก

บางคนก็รู้สึกว่าน้อยเกินไป จึงกำหนดเพิ่มขึ้นมาอีกวัน คือ พระเกตุปางตรัสรู้ (ปางมารวิชัยหรือปางสะดุ้งมาร) ถามว่าพระเกตุเอาไว้สำหรับใคร ? เขาเอาไว้สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าตนเองเกิดวันอะไร พวกเราจะคุ้นเคยกับพระพุทธรูปปางต่าง ๆ แค่นี้

แต่ปางเหยียบโลกนั้น คนสร้างแหกคอกจริง ๆ ถ้าจะสร้างพระพุทธเจ้าในลักษณะที่พระองค์เป็นโลกุตระ (ผู้เหนือโลก) ก็ต้องสร้างแบบพม่า พม่าทำแท่นให้พระองค์ท่านยืนอยู่ทั้งองค์ และมีลูกโลกอยู่ข้างใต้ แต่ของไทยสร้างได้น่าเกลียดมาก เขาสร้างให้พระพุทธเจ้าประทับยืนด้วยพระบาทข้างเดียว อีกข้างเหยียบโลกเอาไว้ ลักษณะเหมือนกับนักฟุตบอลเหยียบลูกบอล วางท่าให้ช่างภาพถ่ายรูป ยังดีที่ไม่ท้าวบั้นพระองค์ไปด้วย..!

ถ้าอยากจะเชิดชูพระเกียรติคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นผู้เหนือโลก ก็ควรจะคิดและทำให้รอบคอบกว่านี้หน่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-01-2019 เมื่อ 16:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา