ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 12-04-2011, 11:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,510
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,020 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "บ้านวิริยบารมีหลังนี้กว่าจะเสร็จได้ คนทำบ้านแทบประสาทกลับไปหลายรอบ เพราะมีคนบริจาคของมาเยอะมาก พอบริจาคมาแล้วสีสันเข้ากับบ้านไม่ได้ อย่างเช่น บริจาคม่านหน้าต่างมา ถ้าบริจาคครบทุกบานเราก็ไม่ว่าอะไร นี่บริจาคมาไม่กี่ชุด

อย่างเมื่อวานเตรียมเครื่องไทยธรรมไว้ แล้วอยู่ ๆ ก็มีคนคว้านั่นคว้านี่มาอย่างละ ๙ ชุด มาไล่ถวายเพิ่ม แล้วเขาก็ไม่ได้บอกอะไรก่อนด้วย ทำเอาเองเลย ในเมื่อทำเองก็กลายเป็นว่าทุลักทุเล อะไรที่เกินมา งานจะยากขึ้น เพราะพระย่อมรู้ว่าอะไรเหมาะอะไรควร

เมื่อวานนี้ขนมของทางซีพี พระท่านเอาไปแล้วก็ต้องสละให้ลูกศิษย์หลังเพล เขาถวายไปรูปละถุงใหญ่ เราต้องดูว่าอะไรเหมาะสมกับสมณสารูปของพระด้วย

อาตมาเองเคยนั่งเซ็งในอารมณ์อยู่ครั้งหนึ่ง ไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว พอเสร็จเรียบร้อย ลุกขึ้นก็มีเสียงมาว่า "ท่านเจ้าคะ..รับหน่อยค่ะ" พอหันมาเขาถวายอาหารช่วงเที่ยง มีข้าว มีกับ มีน้ำ มีขนม ครบถุงเบ้อเร่อเลย

อาตมาก็ต้องหิ้วเดินผ่านโยมเป็นร้อย ๆ ออกมา เขาเห็นก็คงคิดว่า พระรูปนี้ ถ้าไม่ใช่รอบคอบก็งกกินฉิบห.. รอบคอบก็คืออุตส่าห์พกอาหารเองมาด้วย แต่ถ้าคนมองในแง่ว่างกกิน ก็คือถึงขนาดหิ้วมาอย่างนี้เลยหรือ ? บางคนเขาไม่ได้ดูความเหมาะสมว่าอะไรควรทำ พวกเราต้องพยายามใช้ปัญญาด้วย ว่าแต่ละอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่ ? ใช้แต่สติอย่างเดียวก็ไม่ไหว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2019 เมื่อ 18:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา