ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 12-05-2014, 19:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,522
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,166 ครั้ง ใน 34,112 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนื่องจากพบว่าข้อมูลคำสอนเรื่องอาชีพผู้พิพากษาซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินคดีและลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมาย มีคำสอนออกเป็น ๒ แนวทาง แนวทางหนึ่งอธิบายว่า แม้จะตัดสินคดีลงโทษผู้อื่น เช่น ปรับ จำคุก หรือในคดีแพ่งพิพากษาให้ใช้ค่าเสียหาย ก็ไม่เป็นบาป เพราะกระทำตามหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติ

ส่วนอีกแนวทางหนึ่งอธิบายว่า แม้จะทำตามหน้าที่ แต่เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับกฎแห่งกรรม ดังนั้น..การตัดสินคดีลงโทษผู้อื่น เช่น ปรับ จำคุก หรือในคดีแพ่งพิพากษาให้ใช้ค่าเสียหาย ย่อมเป็นการสร้างบาปอกุศล และแนวทางนี้ยังยกเรื่องพระเตมีย์ชาดกมาอ้างอิงด้วย จึงขอเรียนสอบถามพระอาจารย์ว่า คำสอนที่ถูกต้อง ควรเป็นเช่นไร ?

ตอบ : ทั้ง ๒ แนวทางที่ว่ามาถูกทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการวางกำลังใจของตน ถ้าวางกำลังใจแบบภรรยาของพรานกุกุกฏมิตรซึ่งเป็นพระโสดาบัน สามีที่เป็นพรานก็บอก “แม่อีหนูส่งบ่วงเชือกมา แม่อีหนูส่งแหลนมา” ซึ่งตนเองจะไปล่าสัตว์ ภรรยาของพรานกุกุกฏมิตรซึ่งเป็นพระโสดาบันก็ส่งทุกสิ่งทุกอย่างให้ตามที่สามีบอก พระท่านไปเห็นเข้าก็แปลกใจว่า ทำไมพระโสดาบันยังสนับสนุนการฆ่าสัตว์อยู่ ไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกให้ไปถามตรงกับเธอเอง

เมื่อไปถามเข้า เธอตอบว่า เธอเป็นภรรยา มีหน้าที่ทำตามคำสั่งสามี สามีให้ส่งบ่วงเชือกก็ส่งให้ ให้ส่งแหลนก็ส่งให้ แต่ไม่รับรู้ว่าสามีจะไปทำอะไร ฉะนั้น..เรื่องของการพิพากษา ถ้าหากว่าเราตัดกำลังใจได้แบบนั้น ก็คือเราทำตามหน้าที่ ว่าไปตามข้อเท็จจริง เมื่อพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่แล้วก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ถือว่ามีบาป เนื่องจากว่าไม่ได้โกรธ ไม่ได้เคืองแค้นแล้วจะไปตัดสินในลักษณะกลั่นแกล้งลงโทษ

แต่ถ้าหากว่าตัดกำลังใจไม่ได้ คิดอยู่เสมอว่าเราไปลงโทษเขา เราไปทำให้เขาลำบาก ทำให้เขาเดือดร้อน จิตใจของตัวเองก็เศร้าหมอง ถึงเวลาก็ต้องรับโทษตามนั้นเพราะใจเศร้าหมองไปแล้ว ฉะนั้น..ที่ถามมาทั้ง ๒ แนวทาง ขึ้นอยู่กับว่าเราวางกำลังใจถูกหรือไม่ ถ้าวางกำลังใจถูกก็ไม่บาป ถ้าวางกำลังใจผิดก็เจอบาปไปเต็ม ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา