ดูแบบคำตอบเดียว
  #280  
เก่า 21-05-2015, 11:34
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

นี่ภาคปฏิบัติ ภาคปัญญา การพิจารณาทางด้านปัญญานี้ต้องพิจารณาให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ถึงกาลเวลาพิจารณา เวลาที่จะเข้ามาพักสมาธิมีความสงบ เพื่อเอากำลังหนุนทางด้านปัญญา เราก็เข้ามาพักสมาธิคือความสงบใจเสีย.. อย่าไปกังวลกับความคิดอ่านไตร่ตรองเรื่องปัญญาเลย ให้อยู่กับความสงบ.. สงบได้ดีเท่าไรยิ่งเป็นของดี อยู่ตรงนี้ พอจิตอิ่มพอในความสงบแล้ว พอถอยออกมาเท่านั้น ทีนี้เอาพิจารณาทางด้านปัญญาอย่างยิ่งกับทางสมาธิ ปล่อยไปเลยสมาธิ เหมือนเป็นคนละโลก ในขณะนั้น ให้ก้าวเดินทางด้านปัญญา เมื่อเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแล้วก็ถอยมาพักสมาธิ นี้เป็นการก้าวเดินอย่างราบรื่นดีงามของผู้ปฏิบัติทั้งหลาย ... แล้วก้าวเดินไปอย่างนี้เรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงอกนิฏฐาเต็มภูมิ นี่ท่านเรียกว่าพระอนาคามีเต็มภูมิ ไปเต็มที่นั่นนะ.. ตั้งแต่อวิหา อตัปปานี้ยังไม่เต็มภูมิ แต่ได้ฐานเรียบร้อยแล้วว่าสำเร็จเป็นพระอนาคามี ถ้าบันไดก็ขั้นต้น บันไดของพระอนาคามีมีถึง ๕ ขั้น ถ้าเทียบบันได ขั้น ๑ อวิหา ๒ อตัปปา ๓ สุทัสสา ๔ สุทัสสี ๕ อกนิฏฐา นี่ลำดับของพระอนาคามี ที่ได้ในขั้นต้นแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์แบบเหมือนผู้รู้ธรรมโดยขิปปาภิญญา

การกล่าวทั้งนี้ เรากล่าวตามธรรมดาของเนยยะ อยู่กลาง ๆ ของคนเราธรรมดา ไม่ได้กล่าวถึงพวกอุคฆฏิตัญญู วิปจิตัญญู ซึ่งรวดเร็ว พอถึงปั๊บนี่.. พุ่งเลย อวิหา อตัปปา อนาคามี นี่พุ่งทะลุถึงกันถึงนิพพานเลย นี่เป็นประเภทหนึ่ง ไม่ได้นับเข้ามาในนี้ ส่วนมากนักปฏิบัติของเรามักจะก้าวเดินไปตามนี้ เพราะเป็นการบำเพ็ญของผู้ที่อยู่ในท่ามกลาง ยากลำบาก ช้าก็ช้า..แต่ถึง นี่เป็นอย่างนี้นะ ผู้ที่รวดเร็วนั้น พอบรรลุปึ๋ง ๆ ถึงที่สุดเลย นี่เรียกว่าอุคฆฏิตัญญู เรียกว่าขิปปาภิญญา ผู้รู้ได้เร็วต่างกันอย่างนี้ แต่ให้แยกแยะเอานะ นี่การพิจารณาทางด้านปัญญาให้พิจารณาอย่างนี้

เรื่องกิเลสกามราคะนี้รุนแรงมาก หนักมากที่สุด ถ่วงจิตใจมากทีเดียว ไม่ว่าหญิงว่าชาย เป็นแต่เพียงไม่พูดถึงกัน เรานำมาพูดเฉพาะนักบวชที่เป็นผู้จะเสียสละสิ่งเหล่านี้ แล้วนำมาแก้ไขดัดแปลงกัน แก้ไขถอดถอนกันจึงรู้สึกว่าอันนี้ยาก ยากจริง ๆ เวลาเข้าถึงขั้นนี้ที่จะปล่อยวาง ที่จะสำเร็จเป็นขั้นที่สามคืออนาคามีได้นั้น เป็นนักมวยก็เรียกว่านักมวยชุลมุน ต่อยกันอยู่วงใน หมุนติ้ว ๆ อยู่วงใน คือสติปัญญาขั้นนี้ ขั้นหมุนตัวติ้ว ๆ อยู่กับอสุภะอสุภัง พออันนี้ผ่านได้แล้วก็กลายเป็นสติปัญญาอัตโนมัติขึ้นมา โดยที่นำอันนี้แหละ มาฝึกมาซ้อมอยู่โดยสม่ำเสมอก็กลายเป็นสติปัญญาอัตโนมัติ...

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2015 เมื่อ 16:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา