ดูแบบคำตอบเดียว
  #271  
เก่า 12-03-2015, 14:10
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ท่านว่าในขั้นสติปัญญาอัตโนมัตินี้ จะหมุนฆ่ากิเลสตลอด เทียบได้กับเวลากิเลสมีกำลัง จิตใจหมุนไปทางไหน คิดไปแบบไหนจะเป็นกิเลสทั้งนั้น ไม่ได้เป็นธรรม มีแต่ลากเราไปเป็นกิเลส แล้วเอากองทุกข์ขนมาทับหัวใจเรา อันนี้เป็นอัตโนมัติของกิเลส ดังนี้

“... ปุถุชนเรานี้คิดเรื่องใดก็ตาม กิเลสต้องเป็นอัตโนมัติของมันตลอด ๆ ไป นี่..เวลากิเลสมีกำลังมากเป็นอย่างนั้นนะ ทีนี้บทเวลาสติปัญญาขั้นนี้ขึ้นมา มันรับกันล่ะซิ พอสติปัญญาขั้นนี้ขึ้นมา.. มันฆ่ากิเลส ที่นี้ฆ่ากิเลส มันก็เพลินในการฆ่ากิเลส เพลินไปเพลินมา.. เลยกลายเป็นอัตโนมัติไป หมุนติ้ว ๆ เลย อยู่ไม่ได้.. ต้องฆ่าตลอด ๆ นี้เรียกว่า วิวัฏจักร หมุนกลับ


แต่ก่อนกิเลสมันเป็นวัฏจักร หมุนจิตเข้ามาสู่ความทุกข์ทั้งหลาย ทีนี้เป็นวิวัฏจักร.. ด้วยสติปัญญาอัตโนมัติ มันหมุนจิตกลับออกจากกองทุกข์ หมุนเรื่อย ๆ หมุนติ้ว ๆ จนกระทั่งกลางคืนทั้งคืนนั่งภาวนา มันพิจารณาของมันตลอด นอนมันก็พิจารณาของมันตลอด อยู่อิริยาบถไหนเรียกว่าไม่มีอิริยาบถ คือมันเป็นสติปัญญาตลอดเวลา ไม่ว่าจะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน มันจะเป็นสติปัญญาฟัดกับกิเลสตลอดเวลา แม้ที่สุดเราฉันจังหันอยู่นี้ จิตมันไม่ได้อยู่กับอาหารนะ มันจะทำงานของมันอยู่ในนั้น หมุนติ้ว ๆ ซัดกันอยู่ในนั้น นี่ละ..สติปัญญาอัตโนมัติ นี่ละ..ฆ่ากิเลส ที่นี้เริ่มละนะ เริ่มเรื่อย ๆ ๆ ไป

ถ้าลงได้ก้าวลงไปเดินจงกรมแล้วไม่รู้จักหยุดจักยั้งน่ะ จนกระทั่งเวลาเช่นเวลาปัดกวาด ฉันจังหันเสร็จแล้วลงเดินจงกรม นานขนาดไหนฟังซิ มันรู้เมื่อไรว่าเช้า สาย บ่าย เย็น ที่ไหน มีแต่กิเลสกับธรรมฟัดกันอยู่ภายในใจ หมุนติ้ว ๆ นี่ถ้าเป็นนักมวยก็เรียกว่าเข้าวงใน ไม่รู้จักเป็นจักตาย นักมวยเข้าวงในกันเป็นอย่างนั้น อันนี้กิเลสกับธรรมเข้าวงในกันก็แบบเดียวกัน วงนี้วงจะออกจากทุกข์แล้วนี่ หมุนติ้ว ๆ เดินจงกรมตั้งแต่ฉันจังหันเสร็จแล้ว จนกระทั่งถึงเวลาปัดกวาด ถึงด้อม ๆ มาจากทางจงกรม วันนี้ก็เดิน คืนนี้ก็เดิน วันหน้าก็เดิน คืนหน้าก็เดิน เดินไม่หยุดไม่ถอย ฟัดกับกิเลสจนกระทั่งกิเลสขาดสะบั้นลงเมื่อไรถึงจะหยุดได้ แล้วมันมีเวลากี่วัน กี่ปี กี่เดือน นั่น..ฟังซิน่ะ เดินอยู่อย่างนั้นตลอด

ถ้าลงได้เดินก็ไม่รู้จักหยุด ถ้าได้นั่งก็เอาไม่รู้จักเคลื่อนจักไหว เพราะทางภายในมันไม่ได้ออก มันหมุนของมันอยู่ภายใน นี่ละ.. ฝ่าเท้าถึงแตกเพราะเดินไม่หยุด วันนี้ก็เดิน วันหน้าก็เดิน เดินหลายวันหลายคืนมันก็แตกล่ะซิ ทีนี้มาพิจารณาถึงเรื่องความเพียรที่มันเป็น ที่ท่านเดินจงกรมฝ่าเท้าแตกเพราะเหตุนี้เอง ถ้าธรรมดาเราบังคับบัญชา เราเดินจงกรมจนฝ่าเท้าแตก ร้อยทั้งร้อย พันทั้งพัน เรายังไม่อยากเชื่อนะ แต่พอก้าวเข้าถึงขั้นความเพียรอัตโนมัติ สติปัญญาอัตโนมัตินี้แล้ว เชื่อทันทีเลย นี่..ลงเดินจงกรมก็เหมือนกัน มันได้เห็นแล้วนี่ ถ้าลงได้เดินแล้วไม่รู้เวล่ำเวลา เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หิวโหยอะไร ไม่เคยสนใจเลย น้ำท่าไม่ได้สนใจ

อะไรไม่ได้สนใจทั้งนั้นเลย มีแต่หมุนติ้ว ๆ อยู่ภายใน ๆ ๆ วันนี้ก็เป็นอย่างนี้ กลางคืนก็เป็นอย่างนี้ ถ้าว่านั่งก็ไม่รู้จักลุก ถ้าว่าเดินก็ไม่รู้จักหยุด ทำอะไรเป็นอันว่าคือมันหมุนอยู่ภายใน มันไม่ออกข้างนอก เรื่องที่ว่าร้อนว่าหนาว ว่าชุ่มว่าเย็น ว่าหิวว่ากระหาย อย่าเอามายุ่งเลย.. อยู่ภายนอก อันนี้อยู่ภายใน ไม่สนใจกับอะไรทั้งนั้น มันจะร้อนแผดขนาดไหน.. แดดไม่ได้สนใจนะ ไม่มีคำว่าร้อน กิเลสกับธรรมฟัดกันอยู่ภายใน อันนี้หมุนติ้ว ๆ มันจะออกไปอะไร หาดินหาฟ้าอากาศล่ะ นั่นละ ที่นี้ยอมทันที อ๋อ... ท่านเดินจงกรมผ่าเท้าแตก ยอมรับทันที อ๋อ.. เดินแบบนี้เอง เดินฝ่าเท้าแตก

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 12-03-2015 เมื่อ 19:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา