ดูแบบคำตอบเดียว
  #9  
เก่า 12-07-2011, 19:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"กลายเป็นว่ารัตนโกสินทร์ของเราปลอดจากการแย่งชิงราชสมบัติมากว่า ๒๐๐ ปี มาถึงช่วงรัชกาลที่ ๗ โดนคณะราษฎร์ปฏิวัติชิงพระราชอำนาจ ช่วงนั้นจึงต้องหาบุคคลที่จะมาเป็นรัชกาลที่ ๘ เขาต้องดูจากการสืบสายสันตติวงศ์

ตอนนั้นสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ถือว่าอาวุโสสูงสุด แต่ทิวงคตเสียก่อน ก็ต้องมาดูลูกที่สืบสายของพระองค์ท่าน คือ หม่อมเจ้าจุลจักรพงษ์ แต่แม่ของท่านเป็นแหม่มรัสเซีย ก็เลยไม่สามารถที่จะสืบสายได้

องค์ต่อมาก็คือ สมด็จเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ก็ทิวงคตอีก พอไปดูลูก ก็คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล(เสด็จพระองค์ชายใหญ่) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร(เสด็จพระองค์ชายกลาง) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรณ์มงคลการ(เสด็จพระองค์ชายเล็ก ) ทั้งสามท่านไม่มีใครกล้ารับ

ขนาดในหลวงรัชกาลที่ ๗ เขายังไล่ออกจากราชบัลลังก์ แล้วคนอื่นจะเหลือหรือ ? ก็ต้องดูสายต่อมาก็คือ สมเด็จเจ้าฟ้ามหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ตอนนั้นท่านเป็นกรมหลวงสงขลานครินทร์ ปรากฏว่าทิวงคตเหมือนกัน ก็มาดูลูก มีพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดล และพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช ความจริงท่านเกิดมาเป็นหม่อมเจ้าทั้งคู่ แต่ได้รับเลื่อนเป็นพระวรวงศ์เธอ

สมเด็จย่าก็ยอมให้ในหลวงรัชกาลที่ ๘ มา แปลว่า รอดการนองเลือดไปได้ เพราะว่าต่างก็เกี่ยงกันเป็น เพราะสถานการณ์ไม่ให้เอื้ออำนวย กลัวคณะราษฎร์จะฆ่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-07-2011 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา