"บรรดาราชวงศ์หรือผู้ปกครองต่าง ๆ แทบทุกมุมโลก ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ก็มีการฆ่าล้างผลาญกันเป็นปกติ แม้กระทั่งของไทยเรา ในช่วงกรุงศรีอุยธยาก็ยังฆ่ากันเป็นปกติ ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์ปราสาททอง ฆ่ากันแล้วฆ่ากันอีก จนบางช่วงแทบจะไม่มีคนรับราชการ คนดีคนเก่งโดนฆ่าทิ้งหมด เพราะว่าเป็นพวกของอีกฝ่ายหนึ่ง
เพิ่งจะมาสงบเรียบร้อยเมื่อสมัยรัตนโกสินทร์นี่เอง จะว่าสงบเรียบร้อยก็ไม่ใช่ อย่างสมัยรัชกาลที่ ๓ ขึ้นครองราชย์ ความจริงราชสมบัติต้องเป็นของรัชกาลที่ ๔ เพราะรัชกาลที่ ๔ เป็นสมเด็จเจ้าฟ้า ส่วนรัชกาลที่ ๓ แม่เป็นสามัญชน จึงเป็นแค่หม่อมเจ้า
แต่รัชกาลที่ ๓ ท่านทำหน้าที่แทนรัชกาลที่ ๒ มาตลอด แม้กระทั่งการรบทัพจับศึกหรือค้าขาย ท่านเก่งทุกอย่าง ข้าราชการก็สนับสนุนให้ท่านขึ้นครองราชย์ รัชกาลที่ ๓ พิจารณาแล้วว่าถ้าไม่รับราชสมบัติไว้ รัชกาลที่ ๔ ไม่รอดแน่นอน เพราะถ้าท่านไม่ทำคนอื่นก็จะลงมือทำเอง รัชกาลที่ ๓ จึงรับราชสมบัติไว้ เป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์เดียวที่ทำพิธีบรมราชาภิเษกโดยไม่ได้สวมพระมหาพิชัยมงกุฎ
พอราชปุโรหิตถวายพระมหาพิชัยมงกุฎ พระองค์ท่านรับและวางเอาไว้ด้านข้าง ตรัสว่า "เก็บเอาไว้ให้น้อง" เราจะเห็นว่าน่าจะมีการนองเลือดเกิดขึ้น แต่รัชกาลที่ ๓ ตรองถูก เลือกถูก ยอมโดนคนตราหน้าว่าแย่งสมบัติน้องดีกว่า ไม่อย่างนั้นน้องคงจะแย่แน่"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2011 เมื่อ 02:09
|