ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 04-12-2012, 19:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,619
ได้ให้อนุโมทนา: 151,818
ได้รับอนุโมทนา 4,413,356 ครั้ง ใน 34,209 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดจิตไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา ใช้คำภาวนาตามอัธยาศัยที่พวกเราเคยกระทำมา

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานต้นเดือนวันสุดท้ายของพวกเรา ระยะนี้เป็นกาลกฐิน กาลกฐินก็คือวาระแห่งการทอดกฐิน วาระแห่งการทอดกฐินจะเริ่มตั้งแต่แรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ จนถึงกลางเดือน ๑๒ เป็นระยะเวลา ๒๙ วันเท่านั้น ญาติโยมหลายท่านได้ไปทอดกฐินตามวัดวาอารามต่าง ๆ แล้วก็กลับมาเจริญกรรมฐานกัน ถือว่ากระทำได้ถูกต้อง

เนื่องจากว่าบุญกฐินนั้นแม้ว่าจะเป็นสังฆทานพิเศษ เพราะจำกัดด้วยระยะเวลา ปีหนึ่งแต่ละวัดรับกฐินได้ครั้งเดียว มีระยะเวลาในการทอดกฐินปีละ ๒๙ วันเท่านั้น แม้อานิสงส์กฐินจะมาก แต่ก็ยังเป็นอานิสงส์ในส่วนของทานเท่านั้น อานิสงส์ในส่วนของศีล ในส่วนของภาวนา เราจะขาดเสียไม่ได้

อรรถกถาจารย์ท่านบอกว่า การให้ทานนั้นเกิดมาจะร่ำรวย การรักษาศีลเกิดมาจะรูปสวย จะมีจิตใจดีงาม การภาวนาเกิดมาจะมีปัญญาเฉลียวฉลาด เราจำเป็นต้องทำให้ครบถ้วนทั้ง ๓ ประการ อย่าเน้นเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะถ้าเราเกิดมารวยแต่ไม่มีปัญญา ก็อาจจะรักษาทรัพย์สมบัติไม่ได้ เกิดมาสวยแต่ว่าไม่มีเงินทอง ไม่มีปัญญา ความสวยก็แทบจะช่วยอะไรเราไม่ได้ เกิดมาเป็นคนมีปัญญามาก แต่ต้องลำบากในการหาทรัพย์เพราะไม่ร่ำรวย หรือหน้าตาของเราดูไม่ได้ ต่อให้มีปัญญามากก็ยังคงต้องประสบกับความลำบากอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2012 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา