ดูแบบคำตอบเดียว
  #132  
เก่า 23-10-2014, 19:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,466 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เหตุแห่งธรรมทั้งหลายทั้งปวงมีไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่มีแล้วจะมาได้อย่างไรล่ะ ? ถ้าหากว่าเหตุแห่งธรรมทั้งหลายทั้งปวงจริง ๆ มาจากอวิชชา คือความไม่รู้ อย่าลืมว่าคำว่าธรรมก็คือธรรมชาติ ถ้าเราต้องการรู้ในส่วนของธรรมที่ดี ก็ต้องสร้างปัญญาให้เกิด ถ้าในส่วนที่ไม่ดีนี่อวิชชาครอบงำหมดทุกอย่างอยู่แล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าในส่วนของปัญญานี่จะต้องลำบาก เหมือนกับว่าจะต้องฝ่าฝันผ่านความมืดมาตลอด จนกว่าที่จะทะลุผ่านไปได้ แต่ว่าตัวอวิชชาจริง ๆ ครอบงำอยู่ตั้งแต่ต้น

ดังนั้น..ถ้าแยกธรรมของเป็นกุศลธรรมกับอกุศลธรรมก็จะง่าย ก็กลายเป็นว่าอวิชชาครอบงำในอกุศลธรรมทั้งหมด ส่วนวิชชาซึ่งก็คือปัญญาก็จะเป็นตัวครอบงำในกุศลธรรมทั้งหมดเหมือนกัน


ถาม : ฝ่ายกุศลธรรมอย่างที่เราขวนขวายทำบุญโดยที่ไม่รู้ก็มีใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เราจะทำโดยรู้หรือไม่รู้ ถึงเวลากุศลก็ส่งผลให้ ในเมื่อกุศลแปลว่าส่วนของความฉลาด ส่งผลมาแล้วเกิดความสุข ความสบาย ก็จะเกิดปัญญาในลักษณะโลกิยปัญญาขึ้นมาก่อน ว่าสิ่งนี้ดีกับเรา เราควรทำต่อ จนกระทั่งพอสั่งสมไป ๆ ปัญญามากขึ้น เริ่มก้าวเข้าสู่ระดับโลกุตระก็จะรู้ว่าส่วนไหนควรละ ส่วนไหนควรเลือกไว้ แล้วท้ายที่สุดปัญญามาเต็มที่ ก็ปล่อยวางได้ทั้งหมด

ถาม : แล้วเหตุแห่งพระนิพพาน ?
ตอบ : พระนิพพานอยู่นอกเหตุเหนือผล คือไม่สามารถที่จะอธิบายได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2014 เมื่อ 19:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา