ดังนั้น...จึงควรอย่างยิ่งที่เราจะสละกิเลสร้อยรัดที่หยาบ ๆ รอบ ๆ ตัวของเราออกไป พยายามให้เหลือเพียงปัจจัยสี่ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค มีแค่นี้เราก็อยู่รอดได้แน่นอน ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งเหลือเฟืออื่นใดอีก ปัจจัยอื่นล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องถ่วงให้เราติดข้องอยู่กับวัฏฏะทั้งสิ้น เหมือนกับหัวรถจักรจะวิ่งขึ้นที่สูง แต่มีสิ่งเกี่ยว สิ่งพ่วง สิ่งข้องอยู่มากมาย แล้วจะไปได้อย่างไร ?
ครูบาอาจารย์ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเสก หรือบันดาลให้พวกเราบรรลุมรรคผลได้ในทันทีทันใด สิ่งที่ท่านบอกเป็นเพียงแนวทาง แล้วเราก็น้อมนำไปปฏิบัติ แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็นเช่นนี้ พระองค์ท่านตรัสว่า อักขาตาโร ตถาคตา แม้แต่ตถาคตก็เป็นเพียงผู้บอกเท่านั้น ส่วนบอกแล้วจะเดินตามหรือไม่ เป็นเรื่องของท่านทั้งหลายจะต้องพิจารณากันเอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2018 เมื่อ 03:12
|