พระอาจารย์กล่าวว่า "หลังจากที่สร้างบันไดขึ้นรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน แล้วขึ้น ๆ ลง ๆ จนชิน เมื่อวันก่อนไปตรวจงานที่ฝั่งพระเจดีย์ ปรากฏว่าเดินไม่ถึง ๓ นาทีถึงยอดแล้ว ทางด้านรอยพระพุทธบาทนั่นสถิติ ๑๖ นาทียังไม่มีใครทำลายได้
ตอนนี้ทางด้านทองผาภูมิเอาบันไดขึ้นรอยพระพุทธบาทเป็นที่ออกกำลังกาย จากที่เคยไปตั้งวงเต้นแอโรบิค ก็เปลี่ยนมาเป็นขึ้นเขาทุกเย็น เขาขึ้นกันอย่างเอาจริงเอาจังมาก ถ้าไม่ประเภทระบมจนเดินไม่ได้ก็คงจะแข็งแรงขึ้นมากเลย
ทางด้าน ททท.จังหวัดกาญจนบุรี ออกโฆษณาให้ไปพิสูจน์ความท้าทายที่ท่าขนุน จนกระทั่งอาตมาเองสงสัยว่าท้าทายขนาดไหน ? สมัยปีนขึ้นไปเปล่า ๆ ยังท้าทายกว่าอีก ตอนฝนตกยังลื่นเสียจนพระหัวทิ่มลงมาแล้ว แทนที่ท่านจะเดินด้านข้าง กลับไปเดินตรงกลางขั้นบันได
ทางชมรมโมทนาบุญเว็บพลังจิตเมตตาคนแก่ เอาไม้เท้าไปไว้ ๑๐๐ อันเพื่อจะได้ค้ำขึ้นไป ปรากฏว่าคนที่เอาไม้เท้าไปไม่ใช่คนแก่ เป็นเด็กวัยรุ่น เดินฟาดราวบันไดไปบ้าง นั่งเถียงกันบ้างว่าขั้นบันไดเป็นไม้หรือปูน แล้วกระแทกกระทุ้งทดสอบดู เล่นเอาแตกกระจายไป ๖-๗ ขั้น ท้ายสุดก็เลยต้องให้เขาเอาไม้เท้ากลับลงมาข้างล่าง ถ้าไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้อะไร จะได้เอาไปทำฟืนตอนหลอมเทียนเทผางประทีป
เรื่องของวัยรุ่นเขาทำอะไรไม่คิด เอาแค่สนุกเฉพาะหน้า อย่างที่ไป "แว้น" กันนั่นแหละ ถ้าไม่เจ็บไม่ตายก็ไม่รู้สึก ถ้าเป็นอะไรก็รู้สึกแค่พักเดียว เดี๋ยวก็ขาดสติ ขาดความยั้งคิด ไปทำใหม่อีกแล้ว ตรงจุดนี้ทำให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเรื่องของการปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะว่าทำให้เรามีสติ มีกำลังในการยั้งคิด เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยได้เข้าวัดเข้าวากัน ก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2018 เมื่อ 03:25
|