ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 22-11-2019, 20:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราจะสามารถรักษากำลังใจของเราได้ ก็ต่อเมื่อเราสามารถที่จะกำหนดใจของเราให้อยู่กับปัจจุบัน ก็คืออยู่กับตอนนี้ อยู่กับเดี๋ยวนี้ อยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้าของเรา ไม่ฟุ้งซ่านไปในอดีต ไม่ฟุ้งซ่านไปในอนาคต ไม่หวนหาอาลัยกับสิ่งที่ผ่านมา และไม่ไปคาดหวังอะไรกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ซึ่งก็แปลว่าท่านทั้งหลายจะต้องปฏิบัติในสมาธิภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัวมั่นคง

อารมณ์ใจที่จะทรงตัวมั่นคงได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นปฐมฌานละเอียด จึงสามารถจะถอนตัวจาก รัก โลภ โกรธ หลง ได้ชั่วคราว ทำตัวเป็นคนดูต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จะได้รู้เห็นตามสภาพความเป็นจริง ว่าบุคคลที่ยังมี รัก โลภ โกรธ หลง อยู่นั้น กาย วาจา ใจ ของเขาก็ย่อมประกอบไปด้วยความน่าเกลียดน่าชังเป็นปกติ เพียงแต่ว่าถ้าเราไปเกลียดไปชัง หรือว่าไปรักไปชอบ ก็แปลว่าเราเปิดโอกาสให้กิเลสงอกงามขึ้นในใจของเราเอง เพราะว่าถ้า โกรธ เกลียด ไม่ชอบใจ ก็เป็นส่วนของโทสะ ถ้าหากว่า รักใคร่ ยินดี ชอบใจ ก็เป็นส่วนของราคะ ซึ่งเป็นกิเลสใหญ่ทั้งคู่

เราต้องรักษาอารมณ์ใจของเราให้เป็นกลาง ไม่ยินดียินร้ายต่อสภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อเราเป็นคนดู เราก็จะเห็นอย่างชัดเจนว่า ใครมีบทบาทแสดงอย่างไร ซึ่งเป็นไปตามกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ในใจของแต่ละคน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2019 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา